กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านนะครับ ในบทความนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักประโยคหนึ่งที่หลายคนที่ใช้สินค้า Peak Design น่าจะเคยเห็นแทบทุกคนอยู่แล้วนั่นก็คือประโยคที่บอกว่า “1% for the Planet” แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ประโยคแต่เป็นชื่อโครงการหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่ง Peak Design นั้นก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่อยู่ในโครงการ และในฐานะที่เป็นสมาชิกจึงได้บริจาค 1% ของรายได้ต่อปีให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของโครงการ งั้นเราไปเริ่มทำความรู้จักและเข้าใจ 1% for the Planet กันครับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?
1% for the Planet
จุดเริ่มต้นทั้งหมดเกิดขึ้นจาก เมื่อนักธุรกิจ 2 คนมาเจอกันและผูกพันกันจากสิ่งที่พวกเขารักเหมือนกันคือการเดินทาง และตะหนักถึงความรับผิดชอบที่ต้องรักษาโลกของเรา พวกเขาจึงตัดสินใจมอบ 1% ของยอดขายให้กับสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะทำกำไรได้หรือไม่ ในปี 2002 Yvon Chouinard ผู้ก่อตั้งของ Patagonia และ Craig Mathews ผู้ก่อตั้ง Blue Ribbon Flies จึงได้สร้าง 1% for the Planet ขึ้นมาและเริ่มแผ่ขยายออกไปทั่วโลก
“เจตนาของ 1% for the Planet คือการช่วยให้ทุนแก่องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของโลก” YVON CHOUINARD กล่าวในหนังสือของเขาชื่อ “LET MY PEOPLE GO SURFING”
ไม่นานหลังจากการก่อตั้งภารกิจของ 1% for the Planet เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แนวคิดนั้นแสนเรียบง่าย นั่นคือองค์กรต่างๆได้รับทรัพยากรมาจากโลกอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาก็ควรที่จะปกป้องทรัพยากรเหล่านั้น และควรตระหนักถึงความรับผิดชอบ มีแบรนด์มากมายที่มาเข้าร่วมด้วย เช่น Brushfire Records, Klean Kanteen, New Belgium Brewing, Honest Tea, Caudalie และแน่นอนรวมถึง Peak Design
โดยสมาชิกมีอยู่ทั่วโลกและมีความหลากหลายเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ว่าใครก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ จากสมาชิกคนธรรมดาทั่วไปที่ร่วมบริจาคและเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น ไปจนนักร้องนักแต่งเพลงอย่างคุณ Jack Johnson ที่เข้าร่วมในปี 2004 เพื่อปกป้องชายฝั่งของรัฐฮาวายบ้านเกิดของเขา ซึ่งไม่ว่าใครก็มี 1% กันหมด
มีการสร้างสายสัมพันธ์กับสมาชิกพร้อมกับหุ้นส่วนที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่มีอิทธิพลสูงที่สอดคล้องกับคุณค่าและเพิ่มเรื่องราวแบรนด์ของพวกเขา ในการทำเช่นนั้นจะเป็นการใช้เวลาทำความรู้จักกับสิ่งที่สำคัญจริงๆสำหรับสมาชิก ผ่านการให้คำปรึกษาจากหุ้นส่วนของพวกเขา มีสมาชิกคนหนึ่งชื่อ Klean Kanteen ที่เป็นคนใส่ใจอย่างมากกับเรื่องราวต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์กับเยาวชนในเรื่องความมหัศจรรย์และวิทยาศาสตร์ของโลกผ่านการศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2008 การสนับสนุนจาก NatureBridge ของ Klean Kanteen คือหนึ่งในหุ้นส่วนที่ยาวนานที่สุดของพวกเขา
ทุกวันนี้ 1% for the Planet มีสมาชิกมากกว่า 3,000 รายที่เข้ามาช่วยปกป้องอนาคตของโลกใบนี้ และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเรื่องที่สำคัญแบ่งเป็น 6 ประเด็นด้วยกันคือ สภาพอากาศ อาหาร พื้นดิน มลพิษ น้ำ และสัตว์ป่า
สภาพอากาศ (Climate)
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวกำหนดชีวิตของเรา มันกำลังเปลี่ยนวิถีชีวิต ระบบอาหาร เศรษฐกิจ และชุมชนของเรา ไม่มีความท้าทายใดที่สำคัญไปกว่าการเอาชนะภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อโลก
อาหาร (Food)
ชุมชนของเรา การทำมาหากิน และระบบนิเวศที่ดี ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการมีระบบอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ระบบอาหารที่ยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นของสุขภาพของทั้งประชากรและโลกใบนี้ ในขณะที่ประชากรโลกเพิ่มขึ้นแต่ทรัพยากรต่างๆค่อยๆลดลงและหายากขึ้น ระบบอาหารที่ดีของเราจะเพิ่มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการร่วมแรงร่วมใจกันของสังคม
พื้นดิน (Land)
ประสิทธิภาพในการจัดการพื้นดินคือกุญแจสำคัญ ในการรักษาธรรมชาติที่หลากหลายของโลกและทรัพยากรต่างๆที่มอบให้กับทุกชีวิต การอนุรักษ์และการปกป้องพื้นดินตลอดจนสิทธิในที่ดินสำหรับชุมชนพื้นเมือง คือสิ่งจำเป็นสำหรับความอุดมสมบูรณ์ของโลก การกระทำของเราทุกวันนี้ทั้งสามารถทำลาย หรือสามารถช่วยรักษาพื้นดินอันมีค่าของเราสำหรับคนในรุ่นต่อๆไป
มลพิษ (Pollution)
มลพิษคือสิ่งที่กำลังทำร้ายสิ่งแวดล้อมของเราในระดับโลก ตั้งแต่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานไปจนถึงการทิ้งสารพิษลงมหาสมุทร มันคุกคามอากาศที่เราหายใจ น้ำที่เราดื่ม รวมถึงพื้นดินที่เราอยู่ การช่วยรักษาโลกไม่ได้หมายถึงการป้องกันมลพิษที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเดียว แต่รวมถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมสะอาดขึ้นอีกด้วย
น้ำ (Water)
สภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการกระทำของเราทุกคน ในการช่วยฟื้นฟูและรักษาคุณภาพของน้ำทั้งหมดบนโลกของเรา เพราะน้ำถือเป็น 71% ของพื้นผิวโลกและมีความสำคัญต่อชีวิตทุกรูปแบบ ทุกวันนี้ทรัพยากรน้ำของเราถูกคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ส่งผลเสียกับระบบนิเวศและเศรษฐกิจของเรา
สัตว์ป่า (Wildlife)
ความหลากหลายของสัตว์ป่ามีความสำคัญอย่างยิ่งกับความสมบูรณ์ของโลก ประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศขึ้นอยู่กับความหลากหลายทางชีวภาพ เรามีหน้าที่อนุรักษ์และช่วยปกป้องความแปรปรวนของสัตว์ป่าบนโลกนี้ เพื่อรักษาความหลายทางชีวภาพที่คอยค้ำจุนชีวิตมนุษย์ทั้งหมด
โดยในปี 2020 Peak Design ได้บริจาค 1% ของรายได้ต่อปีให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่เน้นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ องค์กรที่พยายามอนุรักษ์ และสนับสนุนสิ่งแวดล้อมถึง 9 องค์กรด้วยกัน
California Wilderness Coalition
The California Wilderness Coalition (CalWild) องค์กรที่ช่วยปกป้องและฟื้นฟูภูมิประเทศและพื้นที่ลุ่มน้ำธรรมชาติที่สำคัญของรัฐ California ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญที่ช่วยมอบอากาศสะอาด น้ำสะอาด และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมอบพื้นที่ในการพักผ่อนหย่อนใจและช่วยฟื้นฟูจิตใจให้กับผู้คน CalWild เป็นองค์กรเดียวจากทั่วทั้งรัฐที่อุทิศตนแต่เพียงผู้เดียวในการปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพของรัฐ California
The Conservation Alliance
The Conservation Alliance เป็นกลุ่มของบริษัทที่มีความตั้งใจกัน ในการรวบรวมค่าสมาชิกรายปีเพื่อมอบให้กับองค์กรสิ่งแวดล้อมระดับรากหญ้า มีการลงทุนเพื่อเป็นโครงการในชุมชนเพื่อปกป้องพื้นป่าสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ถูกคุกคาม The Conservation Alliance ก่อตั้งในปี 1989 โดยผู้นำอุตสาหกรรมอุปกรณ์ Outdoor ประกอบด้วย REI, Patagonia, The North Face และ Kelty พวกเขามีเป้าหมายร่วมกันในการสนับสนุนเพิ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์ Outdoor สำหรับการอนุรักษ์ และมีสมาชิกมากกว่า 250 รายเลยทีเดียว
Climate Neutral Certified
Climate Neutral กำเนิดมาจากประสบการณ์ตรงของ 2 องค์กรที่เป็นผู้ก่อตั้งได้แก่ BioLite และ Peak Design ซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอนคือมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) ตั้งแต่ปี 2012 และปี 2018 พวกเขาเห็นมากับตาว่าทุกธุรกิจมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ธุรกิจส่วนใหญ่พบว่ามันซับซ้อนเกินไปที่จะจัดการกับมัน
ซึ่ง Jonathan Cedar CEO ของ BioLite และ Peter Dering CEO ของ Peak Design เข้ามาพูดคุยกันและมีความเชื่อว่าการวัดและการกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะต้องทำได้ง่าย และถ้ามันเป็นเช่นนี้ได้ทุกธุรกิจก็จะสามารถทำตามได้เช่นกัน พวกเขาจึงร่วมกันเปิดตัว Climate Neutral ตั้งแต่ต้นปี 2019
Audubon Alaska
Audubon Alaska เป็นออฟฟิของ National Audubon Society องค์กรที่ทำงานเพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศทางธรรมชาติของ Alaska เน้นในเรื่องของนก สัตว์ป่าอื่นๆ และที่อยู่อาศัยของพวกมัน เพื่อรักษาไว้ให้กับคนรุ่นปัจจุบันและในอนาคต เป้าหมายของ Audubon Alaska คือการปกป้องสัตว์ป่าหายากและพื้นที่ป่าสงวนผ่านหลากหลายกระบวนการไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ การเผยแพร่นโยบายต่างๆ และการศึกษา ให้ความสำคัญหลากหลายพื้นที่ประกอบไปด้วย การป้องกันชีวภาพ Hotspot ในบริเวณ Arctic Circle 3 จุดได้แก่ Arctic National Wildlife Refuge, Teshekpuk Lake Wetlands และ Chukchi Sea และอีกจุดคือที่ Tongass National Forest ใน USA
Adventure Scientists
Adventure Scientists เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรตามกฎหมายมาตรา 501(c)(3) ตั้งอยู่ที่เมือง Bozeman รัฐ Montana เพื่อจัดเก็บข้อมูลจากภายนอกที่มีความสำคัญในการเร่งการจัดการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้คน โดยการใช้ประโยชน์จากทักษะของชุมชนในการเดินทางไปรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก เพื่อให้ได้ข้อมูลทุกรูปแบบจากทุกสภาพแวดล้อม ให้กับพันธมิตรที่ร่วมอนุรักษ์กับเรา ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2011 มีการส่งอาสาสมัครเพื่อไปทำภารกิจออกไปรวบรวมข้อมูลในลักษณะนี้หลายพันคน ผลงานเหล่านี้ได้รับความสนใจจากสื่อร้านค้าหลายร้อยแห่ง และเรื่องราวการผจญภัยของอาสาสมัครกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจไปทั่วโลก
Southeast Alaska Conservation Council
Southeast Alaska Conservation Council (SEACC) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เน้นในการปกป้องพื้นดินและพื้นน้ำในตะวันออกเฉียงใต้ของ Alaska พวกเขาส่งเสริมการอนุรักษ์และสนับสนุนสำหรับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน SEACC ตั้งอยู่ที่ Juneau เมืองหลวงของ Alaska การจัดการสิ่งแวดล้อมจะมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Alaska ประกอบไปด้วย Panhandle, Tongass National Forest และ Inside Passage.
องค์กรยังช่วยสนับสนุนงานและครอบครัวทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Alaska ที่ต้องเลี้ยงชีพโดยการพึ่งพา ปลา สัตว์ป่า และป่าใน Tongass รวมถึงส่งเสริมความสะดวกสบายและการใช้พื้นที่ป่าเหล่านี้ ซึ่งมีการปกป้องมานานกว่า 50 ปีจนถึงวันนี้
Bonneville Environmental Foundation (BEF)
Bonneville Environmental Foundation (BEF) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนโดยการลงทุนในพลังงานสะอาดและน้ำจืด โดยมีการให้ลูกค้าสนับสนุนการทำกิจกรรมชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ BEF (BEF Carbon Offsets) ที่ได้รับการรับรองโดยอิสระ และใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ในการสนับสนุนการลดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของพลังงานหมุนเวียนใหม่ ในขณะที่ลูกค้าที่สนับสนุน Water Restoration Certificates ของ BEF จะช่วยสนับสนุนการนำน้ำกลับมาจากปัญหาน้ำเสีย
ซึ่งลูกค้าและผู้บริจาคของ BEF ทุกคนจะช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูลุ่มน้ำในระยะยาวและการศึกษาด้านพลังงานหมุนเวียนสำหรับนักเรียนและชุมชนทั่วประเทศ เนื่องจาก BEF นำรายได้สุทธิกลับมาใช้ใหม่เพื่อเป็นทุนสนับสนุนโครงการ Model Watershed และ Solar 4R Schools
Theodore Roosevelt Conservation Partnership
Theodore Roosevelt Conservation Partnership หรือ TRCP เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรตามกฎหมายมาตรา 501(c)(3) เป็นการรวมตัวกันขององค์กรการอนุรักษ์ที่เป็นพันมิตรระดับรากหญ้าและธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวกับ Outdoor มีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มเงินทุนกองกลางสำหรับการอนุรักษ์ และช่วยป้องกันการเข้าไปบุกรุกของนักล่าสัตว์และนักตกปลา
มีการกระตุ้นให้ผู้กำหนดนโยบายทำงานหนักมากขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการร่วมมือกับ National Wildlife Federation และ Trout Unlimited ในรูปแบบของ “Sportsmen for Responsible Energy Development” ซึ่งงานหลักคือการรักษาแหล่งธรรมชาติและป่าไม้
Wild & Scenic Film Festival
Wild & Scenic Film Festival ของ South Yuba River Citizens League (SYRCL) เป็นองค์กรที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและรักธรรมชาติผ่านทางภาพยนตร์ มีการจัดเทศกาลใหญ่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีใน Nevada City และ Grass Valley ใน California โดยมีภาพยนตร์มากกว่า 100 เรื่องมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะการ workshops พบปะกับผู้กำกับภาพยนตร์ โปรแกรมที่เหมาะสมกับครอบครัว นิทรรศการงานศิลปะ งานเลี้ยง และอีกมากมาย
เป็นการระดมทุนประจำปีที่ใหญ่ที่สุด เพื่อสร้างความตะหนักและคืนสภาพให้กับ Wild salmon ของ Califonia และปกป้องพื้นที่ลุ่มน้ำ Yuba River มีการจัดเทศกาลแบบ On Tour มากกว่า 180 อีเวนท์ในแต่ละปี ร่วมมือกับกลุ่มต่างๆที่ทำงานเพื่อปกป้องและฟื้นฟูสถานที่สำคัญในชุมชนของพวกเขาทั่วโลก Wild & Scenic On Tour สามารถสร้างเงินทุนที่สำคัญและสร้างความตะหนักเพิ่มขึ้นสำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับรากหญ้า
สั่งซื้อสินค้าจากแบรนด์ Peak Design
ที่มา
- Peak Design Sustainability Report 2020
- https://www.onepercentfortheplanet.org/about
- https://www.onepercentfortheplanet.org/issues
- https://www.calwild.org/aboutus/
- http://www.conservationalliance.com/who-we-are/
- https://www.climateneutral.org/about
- https://ak.audubon.org/about-us
- http://www.conservationalliance.com/organizations/audubon-alaska/
- https://www.seacc.org/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Southeast_Alaska_Conservation_Council
- http://www.conservationalliance.com/organizations/southeast-alaska-conservation-council/
- https://www.csrwire.com/members/14440-bonneville-environmental-foundation
- http://www.b-e-f.org/why-bef/the-bef-difference/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Theodore_Roosevelt_Conservation_Partnership
- https://www.wildandscenicfilmfestival.org/about-the-festival/