หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหานึงเวลาจะเดินทางในแต่ละทริปนั่นคือวิธีการจัดกระเป๋าเดินทาง อะไรควรเอาไปอะไรไม่ควรเอาไป ต้องจัดยังไงให้กระเป๋าเบาและคล่องตัวที่สุด เมื่อแบกไปไหนมาไหนแล้วไม่เป็นภาระกับคุณมากจนเกินไป ในวันนี้ผมจะมาแนะนำ 10 วิธีจัดกระเป๋าเดินทางสไตล์ “minimal” ให้กระเป๋าคุณมีน้ำหนักเบาที่สุดพร้อมทุกการเดินทาง โดยต้องขอขอบคุณทาง Pack Hacker Channel ด้วยนะครับสำหรับข้อมูลดีๆ ซึ่งเขาได้มีประสบการณ์ในการเดินทางรอบโลกใน 2 ปีด้วยกระเป๋า Backpack ใบเดียวมาแล้ว ดีกรีขนาดนี้เขาจะมีวิธีการจัดกระเป๋าดีๆยังไงกันบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆกันเลยคร้าบ
1. นำของทุกอย่างมาวาง
นำของทุกอย่างมาวางกางไว้บนพื้นหรือโต๊ะ เพื่อที่คุณจะได้มองเห็นภาพรวมกับสิ่งที่จะเอาไปในแต่ละทริป จากนั้นค่อยๆคัดของแต่ละอย่างเก็บไปทีละชั้น ทีละชิ้น ทีละชิ้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณผ่านด้านตรวจของสนามบินไปได้สบายคือคุณต้องพยายามประหยัดพื้นที่ภายในกระเป๋าให้ได้มากที่สุด
2. เลือกใช้กระเป๋าจัดระเบียบ
นำอุปกรณ์ต่างๆของคุณใส่ในกระเป๋าจัดระเบียบ ช่วยให้กระเป๋าเดินทางเป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ภายในได้มาก โดยเลือกกระเป๋าจัดระเบียบที่มีความแข็งแรง เบา และที่จำเป็นมากๆเลยคือ ต้องเลือกแบบที่สามารถอัดให้กระชับเหลือขนาดกะทัดรัดลงได้ (Compression) ซึ่งก็มีให้เลือกกันหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับอุปกรณ์ของคุณ เช่น ขนาดเล็กสำหรับถุงเท้าและชุดชั้นใน, ขนาดใหญ่สำหรับกางเกง เสื้อ jacket เสื้อ sweater, ขนาดกลางสำหรับเสื้อผ้าที่เป็นชุดๆ (Outfit) แต่ว่าถ้าหากไม่ได้มีงบเยอะคุณก็สามารถใช้ถุงพลาสติกธรรมดาแทนได้
แนะนำให้ใช้การม้วนเสื้อผ้าเก็บเข้าไปในกระเป๋าจัดระเบียบจะประหยัดพื้นที่มากกว่า แล้วยังทำให้เวลาหยิบกระเป๋าจัดระเบียบขนาดต่างๆใส่กระเป๋าเดินทางได้อย่างลงตัวเป๊ะๆเหมือนกับคุณเล่นเกมส์ Tetris เลยทีเดียว พวกอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ อุปกรณ์อาบน้ำ และยาต่างๆ ก็ให้หากระเป๋าจัดระเบียบไว้เช่นเดียวกัน ทริคเพิ่มเติมในการใช้กระเป๋าจัดระเบียบคือใช้กระเป๋าสีต่างกันในการแบ่งหมวดหมู่ของที่ต่างกัน จะช่วยให้คุณแยกได้รวดเร็วเวลาจะเปิดใช้กระเป๋า
3. เลือกใช้อุปกรณ์ที่ทำได้หลายๆอย่าง
การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทำได้หลายๆอย่างมีข้อดีตรงที่ทำให้คุณลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องเอาไปได้บ้าง ช่วยให้กระเป๋าเดินทางของคุณมีน้ำหนักที่เบาลง ยกตัวอย่างเช่น
ผ้าห่มน้ำหนักเบาที่เปลี่ยนเป็นหมอนได้
USB อันเล็กๆแบบที่สามารถนำไปต่อกับอุปกรณ์ได้หลายๆแบบ ทำให้ไม่ต้องพกอะไรเยอะ
หากคุณชอบถ่ายรูปให้พกเลนส์ไปแค่ตัวเดียว อาจเป็นเลนส์ที่มีหลายระยะ เช่น 18-135 mm
ผ้า buff ที่สามารถเป็นได้ทั้ง ผ้าปิดปาก ผ้าพันคอ ผ้าปิดตา หมวก
แต่ในบางครั้งที่เราเดินทางก็อยากได้นู่นได้นี่ซื้อของเพิ่มเป็นธรรมดาให้ลองชั่งใจดูว่ามันสำคัญกับคุณหรือเปล่า ถ้ามันไม่ได้เพิ่มน้ำหนักให้คุณมากเกินไปตอนระหว่างเดินทางก็ไม่มีปัญหา
4. เลือกชนิดเสื้อผ้าให้เหมาะกับการเดินทาง
เสื้อผ้า คือส่วนประกอบหลักอย่างนึงที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางของเรา การเลือกชนิดเสื้อผ้าให้เหมาะกับการเดินทางจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ผมขอแนะนำให้เลือกใช้เสื้อผ้าชนิดที่เรียกว่า Merino wool ครับ มันคือเสื้อผ้าที่เหมาะกับการเดินทางมากที่สุดหรือจะใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้เช่นกัน โดยมันมีคุณสมบัติที่ทำจากธรรมชาติ มีความนุ่ม ป้องกันการเกิดแบคทีเรียทำให้เกิดกลิ่นยากมากๆ นั่นหมายถึงคุณจะสามารถใส่เสื้อผ้าพวกนี้ซ้ำกันได้หลายๆวันนานๆค่อยซักที หากเสื้อผ้าในกระเป๋าของคุณเป็นแบบ Merino Wool ก็จะยิ่งทำให้คุณพกเสื้อผ้าได้น้อยขิ้นลงและกระเป๋าเดินทางของคุณก็จะเบายิ่งขึ้นพกไปไหนก็สะดวก
5. ภายในกระเป๋าต้องสดชื่นอยู่เสมอ
ระหว่างคุณเดินทางอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นจนบางทีทำให้คุณไม่ได้อาบน้ำ อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในกระเป๋าของคุณได้ วิธีการแก้วิธีหนึ่งคือให้คุณใช้ ชิ้นไม้ซีดาร์ (wooden cedar chips) วางดักไว้ มันมีกลิ่นที่เป็นธรรมชาติ ช่วยลดกลิ่นได้และยังช่วยยับยั้งแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆได้อีกด้วย หากคุณอยากได้กลิ่นอื่นที่ชอบก็สามารถเอาน้ำหอมกลิ่นต่างๆมาประกอบใช้ได้ด้วยเช่นกัน
6. พกสบู่ก้อนไว้เสมอ
สบู่ก้อนบางสูตรนั้นสามารถใช้ทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะ อาบน้ำ สระผม ล้างจาน ซักผ้า ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้คุณพกของได้น้อยชิ้นลง กระเป๋าของคุณเบาขึ้นมาก และไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเอาขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ข้อดีอีกอย่างคือมันจะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในกระเป๋าของคุณได้ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะครับ เพราะผมเชื่อว่าหลายคนอาจไม่สะดวกพกทุกอย่างเป็นสบู่ก้อนก็ลองไปปรับใช้ตาม Lifestyle ของคุณได้เลย
7. พกกระเป๋าใบเล็กๆเสริม
ระหว่างเดินทางในบางวันคุณต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกและต้องแบกของใช้ที่จำเป็นไป แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากแบกกระเป๋าใบใหญ่ๆหนักๆออกไป ให้ลองใช้พวกกระเป๋าพับได้ที่มีลักษณะน้ำหนักเบาแต่มีความทนทานสูง วันไหนที่อยากเอาของไปนิดเดียวก็สามารถใช้กระเป๋าพวกนี้แทนได้ อีกอย่างมันยังพกใส่กระเป๋าเดินทางไปได้ง่ายและยังประหยัดเนื้อที่อีกด้วย
คุณอาจจะเลือกเป็นทรงหลายๆแบบตามสไตล์ของคุณ เช่น Daypack, Tote หรือกระเป๋าคาดเอว เป็นต้น ประโยชน์อีกเรื่องนึงคือ ก่อนคุณบินกลับก็ต้องมีการซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง คุณสามารถใช้กระเป๋าเล็กๆพวกนี้ใส่และถือขึ้นเครื่องไปกับคุณได้ แทนที่จะต้องยัดมันทุกอย่างลงในกระเป๋าเดินทาง
8. พกกระเป๋าประเภท Sling ติดตัว
เมื่อคุณจัดของทุกอย่างที่ต้องเอาไปลงกระเป๋าหมดแล้ว แต่บางทีก็มักมีของอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก แนะนำให้คุณพกกระเป๋าทรงสลิง (Sling) หรือใกล้เคียง เหตุผลก็เพราะกระเป๋าลักษณะนี้ใบไม่ใหญ่ ความคล่องตัว หยิบใช้ได้ง่าย คุณสามารถใส่ของเพิ่มเติม ของใช้ส่วนตัว เอกสารสำคัญ ไว้ในกระเป๋านี้ทั้งหมดเลย เมื่อต้องผ่านด่านตรวจที่สนามบินคุณก็สามารถเปิดของให้เจ้าหน้าที่ดูได้ทันที สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องมาเสียเวลาเปิดกระเป๋าเดินทางใบโตๆให้เสียเวลา
9. ใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด
เริ่มจากเรื่องอาหาร มื้อที่ต้องกินระหว่างเดินทางตอน Transit มักจะไม่ค่อยสะดวกบางที่ไม่สะอาดและมักมีราคาแพง ขณะอยู่บนเครื่องคุณก็อยากมีเวลาทานอาหารสบายๆ แต่บางทีถ้าเป็นการบินสั้นๆจะกินก็ไม่ทันแล้ว แนะนำให้พกขนมติดตัวไว้บ้างแบบชนิดที่ให้พลังงานสูง น้ำหนักเบา เก็บได้และไม่เสียง่าย เช่น ถั่ว ผลไม้แห้ง โปรตีนแท่ง เป็นต้น จะทำให้ช่วยคุณประหยัดเงินได้ไปหลายๆมื้อ
พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สายชาร์จ ตัวแปลง SIM card และที่จำเป็นต่างๆให้เตรียมไปให้พร้อมเพื่อจะได้ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม โหลดพวก Media ต่างๆลงในมือถือ iPad หรืออุปกรณ์อะไรก็ตามของคุณไว้ให้เรียบร้อยจากบ้าน เช่น eBook เพลง หนังที่คุณชอบ ฯลฯ เผื่อว่าบางทีระหว่างเดินทางถ้าไม่มีอะไรทำก็หยิบ eBook มานั่งอ่าน หรือเปิดหนังดูแก้เบื่อได้ และมันยังช่วยให้คุณประหยัดการใช้อินเทอร์เน็ตได้ระดับนึงเลย
10. ฝึกฝนคือครูที่ดีที่สุด
ทุกครั้งที่ต้องเดินทางนั่นคือโอกาสฝึกของคุณ เมื่อคุณต้องเดินทางบ่อยๆคุณก็จะได้ฝึกการจัดของแพ็คของเตรียมไปเที่ยวในแต่ละทริปไปในตัว และแน่นอนว่าในแต่ละทริปต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว การฝึกบ่อยๆจะทำให้คุณรู้ได้เองว่าอะไรที่ควรเอาไปและไม่เอาไปในแต่ละทริป และค้นพบได้ด้วยตัวเองว่าวิธีการจัดกระเป๋าแบบไหนที่เข้ากับ Lifestyle ของคุณที่สุด
และให้จำไว้เสมอว่า การเลือกใช้อุปกรณ์ Packing หรืออุปกรณ์ต่างๆ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่ของดีทันที ให้คุณเริ่มจากค่อยเป็นค่อยไปก่อนเปลี่ยนจากเกรดกลางๆ และค่อยๆพัฒนามาเป็นเกรดสูงๆอีกทีตามกำลังที่คุณมี
ก็จบลงกันไปแล้วสำหรับ 10 วิธีการจัดกระเป๋าเดินทางสไตล์ “minimal” หวังว่าจะถูกใจทุกคนกันนะครับ ถ้ามีวิธีการไหนที่คุณทำได้ดีอยู่แล้วก็ให้ทำต่อไปครับ แต่ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนแปลกใหม่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้เลย และหากเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ก็อย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆของคุณกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ สวัสดีครับ
