สวัสดีคร้าบบ ในวันนี้เราจะมารีวิวการใช้กระเป๋ากันขโมย ClickPack Pro กันนะครับ
หลังจากที่บทความที่แล้วผมได้พูดถึงฟีเจอร์เด็ดของเจ้าตัวนี้กันไปบ้างพอสมควรแล้วนะครับ
ดูข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์เด็ดต่างๆได้ที่ 10 เหตุผลที่ ClickPack PRO คือกระเป๋ากันขโมยที่แท้จริง!
แต่นั่นก็เป็นข้อมูลทฤษฎีซะส่วนใหญ่

ครั้งนี้เราจะมาเน้นไปเฉพาะเรื่องของการใช้งานจริงล้วนๆเลย เรียกได้ว่าอ่านจบฟีเจอร์เด็ดตัวไหนใช้ยังไง
ใช้ได้คล่องอย่างแน่นอน ก็จะค่อยๆไล่ไปทีละตัวเช่นเคย งั้นก็เริ่มรับชมกันได้เลยคร้าบ

มารู้จักหน้าตาโดยรวมของมันกันก่อน

Package ด้านหน้า

Package ด้านหลัง

ทรงกระเป๋าด้านหน้า

ทรงกระเป๋าด้านหลัง

วิธีใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

ทีนี้เรามาดูวิธีการใช้งานของตัวฟีเจอร์แรกเลยนะครับ นั่นคือ ฟีเจอร์กันกรีดนั่นเอง
จากรูปข้างล่างจะเห็นว่าผมเอากระดาษมาวางไว้ด้านบนและกรีดให้ดูก่อนว่าคัตเตอร์มันคมจริงๆนะ
จากนั้นผมเอากระดาษออกและลองกรีดบนเนื้อกระเป๋าจริงๆก็จะเห็นว่ากรีดยังไงก็ไม่เข้าครับ
แต่ต้องเป็นเนื้อผ้าตรงเฉพาะบริเวณสีเทาเท่านั้นนะครับที่จะเป็นผ้าสำหรับกันกรีดโดยเฉพาะ

การใช้งานระบบ TSA Lock

หากใครสงสัยว่า TSA Lock คืออะไร สามารถเข้าไปดูได้ที่ 10 เหตุผลที่ ClickPack PRO คือกระเป๋ากันขโมยที่แท้จริง!
วิธีการใช้คือหากเราต้องการจะล็อคก็ให้เอาหัวซิปทั้ง 2 มาติดเข้าที่ช่องล็อคของมันแล้วเราก็เลื่อนเป็นรหัส 3 หลัก
อันอื่นที่ไม่ใช่รหัสของเราเท่านี้ก็ล็อคซิปอย่างสมบูรณ์ ส่วนการปลดล็อคก็แค่เลื่อนรหัสให้ตรงกับที่เราตั้งไว้
จากนั้นก็แค่กดปุ่มบริเวณด้านข้างซิปก็จะเด้งออกมาเองครับ

วิธีการตั้งรหัส

วิธีการตั้งรหัสนั้นง่ายมากครับ เพียงแค่เราเอาอุปกรณ์ที่หัวแหลมๆ อย่างเช่น ปากกาหัวแหลม ทิ่มเข้าไป
ที่บริเวณรูเล็กด้านบนของตัวล็อค ดังรูปครับ จังหวะที่เราจะสามารถทิ่มรูเล็กเข้าไปได้ตอนนั้นต้องอยู่ใน
รหัสล่าสุดที่ใช้ก่อนหน้านี้มาก่อนนะครับ ตอนซื้อไปครั้งแรกทางโรงงานเขาจะตั้งมาไว้ที่รหัส 000 เมื่อทิ่มเข้าไปแล้ว
เราก็หมุนตั้งรหัสใหม่ของเราได้เลย จากนั้นให้ทำการบีบตัวปลดล็อค 1 ที เท่านี้รหัสก็ถูกรีเซ็ตใหม่เรียบร้อยครับ

ทีนี้เรามาดูที่บริเวณด้านข้างของกระเป๋ากันบ้างนะครับ จะเห็นว่าจะมีสายโลหะยืดออกมาได้
ตัวนี้คือ สายเหล็กยืด-หดได้ มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงวิธีใช้งานก็คือ ดึงสายเหล็กตัวนี้ออกมา
แล้วนำไปรัดกับอุปกรณ์ที่สามารถนำไปคล้องได้ เช่น ราว ดังรูปนะครับ จากนั้นอ้อมมันมาติดกับที่ตัวล็อคซิป
ด้านใดด้านหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครมาทำทีเผลอหยิบกระเป๋าของคุณไปได้ง่ายๆและครับ

ต่อไปเรายังคงอยู่ด้านข้างฝั่งเดิมไม่ไปไหนนะครับ พอมองลงมาดูเราจะเห็นช่องที่มีซิปค่อนข้างกว้างอยู่
พอเปิดออกมาดูในนั้นจะมี ถุงสีดำพร้อมตัวตะขอเกี่ยวอะไรสักอย่างอยู่ตัวนี้มีประโยชน์มากครับเพราะมันคือ

ถุงไว้สำหรับใส่ร่มหรือขวดน้ำเล็กๆได้ ในรูปผมจะแทนด้วยการใช้ร่มที่พับได้นะครับ อย่าเผลอเอาร่มใหญ่
ใส่ลงไปล่ะมันคงใส่ไม่ได้แน่นอน 555+ จากนั้นก็รูดปิดปากถุง แล้วก็เอาตะขอพันไปเกี่ยวกับห่วงที่อยู่ด้านใน
เท่านี้ก็สามารถพกพาไปกับกระเป๋าได้อย่างไม่ยากเย็นและครับ

 ถัดจากช่องใส่ร่มและขวดน้ำเล็กๆเมื่อกี้ ใกล้ๆกันที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมาหน่อย เราจะเห็นมี
ซิปช่องเล็กๆอยู่เมื่อเปิดออกมาดูข้างในจะเป็น ที่ห้อยพวงกุญแจ อยู่นะครับ เท่านั้นยังไม่พอ
ยังสามารถถอดออกมาได้อีกด้วย!เพียงแค่กดปุ่มตรงกลางก็หลุดออกมาได้ง่ายดาย เอาไว้เผื่อว่า
คุณต้องการจะหยิบออกมาใช้งาน เมื่อไม่ใช้งานก็สามารถเสียบเอาไว้ตามเดิมได้ครับ

ถัดมาจะเป็น ฟีเจอร์การสะท้อนแสงในเวลากลางคืนหรือตอนช่วงเวลาที่มีแสงน้อย นะครับ
ในภาพผมก็ได้เอามาทดสอบให้ดูเลยนะครับว่ามันสะท้อนแสงได้จริงๆ
โดยการปิดไฟทำให้ในห้องมืดแล้วเอาแฟลชมือถือส่องไปและถ่ายรูปออกมาให้เห็นดังภาพ
เท่านี้เวลาเราสะพายกระเป๋าอยู่ตอนกลางคืนก็จะช่วยให้รถที่วิ่งไปมามองเห็นคุณได้อย่างแน่นอน

 บริเวณสายสะพายกระเป๋าทั้งสองข้างเราจะเห็นว่ามีช่องไว้สำหรับใส่ของที่ต้องหยิบใช้บ่อย เช่น หูฟัง บัตรต่างๆ เป็นต้น
และยังมีช่องซิปที่ติดกับหลังเราเลยเอาไว้สำหรับใส่ของได้อีกเช่นกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกให้คุณได้อย่างมากมาย

ต่อไปเรามาดูทางด้านสายสะพายกระเป๋าฝั่งซ้ายนะครับ จะเห็นว่ามี ช่องเสียบ USB อยู่ไว้สำหรับชาร์ตแบตมือถือของเราได้ทันควันครับ โดยข้างในก็จะมีสายซ่อนเอาไว้อยู่เพื่อเอาไปต่อกับ Power Bank ที่ถูกเก็บเอาไว้ในช่องด้านใน ดังรูปครับ

 ต่อเนื่องจากเมื่อกี้นะครับ เราจะเห็นว่ามีช่องใหญ่ๆข้างหลังไว้สำหรับ ใส่ Labtop ขนาด 15.6 นิ้วได้ อีกด้วย
และภายในช่องนั้นถ้าเราได้ลองเอามือเข้าไปสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มจนคุณเพลินเลยทีเดียว
ส่วนนี้มีไว้สำหรับปกป้อง Labtop ของคุณเมื่อต้องได้รับแรงกระแทกครับ

ส่วนต่อไปเรามาดูภายในของตัวกระเป๋ากันต่อนะครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง จะเห็นว่ากระเป๋า
สามารถเปิดและ กางออกได้ถึง 180 องศา เลยทีเดียว ภายในก็จะมีช่องแบ่งไว้มากมายและจะมี
ไอเท็ม 4 ชิ้นที่น่าสนใจด้วยกันเดี๋ยวเรามาพูดถึงมันกัน ไอเท็ม 4 ชิ้นนี้สามารถถอดออกได้
เมื่อถอดออกมาจะช่วยเพิ่มพื้นที่ของกระเป๋าได้อีกด้วยครับ

ที่นี่เรามาดูไอเท็ม 4 ตัวที่เมื่อกี้เกริ่นกันไว้กันต่อเลย เริ่มที่ 3 ตัวแรกนะครับ ก็จะมี กระเป๋าใบเล็กที่ถอดออกมาได้
2 ใบจะเขียนไว้หน้ากระเป๋าว่า Digital Accessories และ Toiletries ซึ่งมันก็คือเอาไว้สำหรับแบ่งใส่อุปกรณ์ดิจิตอล
และอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ ตัวกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำมีตะขอเอาไว้สำหรับแขวนได้อีกด้วยนะครับ

และมีกล่องสีขาวๆอีกอันหนึ่ง ในนั้นจะมีซองไว้สำหรับใส่บัตรเครดิต บัตรสำคัญต่างๆครับ ซองนี้มีความพิเศษ
เพราะมันคือซองที่เป็น RFID Block ช่วยป้องกันข้อมูลบัตรเครดิตเราถูกโจรกรรมได้ครับ สามารถดูรายละเอียด
เกี่ยวกับ RFID Block ได้ที่นี่เลยครับ 10 เหตุผลที่ ClickPack PRO คือกระเป๋ากันขโมยที่แท้จริง!

และฟีเจอร์สุดท้ายอีกตัวก็คือ ผ้าคลุมกันฝน นะครับ ก็จะเป็นถุงสีดำๆแขวนไว้อยู่ด้านในนะครับ
เมื่อฝนตกเรากลัวกระเป๋าของเราจะเปียกเกินไปก็สามารถเอาออกมาและคลุมได้ทั้งตัวกระเป๋าดังรูปเลยครับ

จบลงไปแล้วนะครับกับวิธีการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆของตัวกระเป๋ากันขโมย ClickPack Pro ก็จะเห็นว่า
ใช้งานได้ง่ายๆเลยนะครับ นี่ก็เป็นเหมือนวิธีการใช้งานพื้นฐานของมันนะครับ
แต่บางคนอาจจะเอาวิธีการต่างๆเราเอาไปประยุกต์ใช้เพิ่มเติมตามสไตล์ของตัวเองได้อีกมากมาย
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันนะครับ สวัสดีครับ

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กระเป๋ากันขโมย ClickPack