สวัสดีกับทุกคนอีกครั้งนะคร้าบ ในวันนี้เรามีเรื่องสำคัญมั๊กมาก (ก.ไก่ล้านตัว) ในเรื่องของ ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Paperang
เครื่องปริ้นรูป แบบพกพา สุดฮิต ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงข้อมูลสำคัญที่ทุกคนควรรู้กันก่อนไปเริ่มเป็นเจ้าของกันนะครับ
โดยเราได้รวบรวมมาทั้งหมด 8 ข้อ ด้วยกัน จะมีอะไรกันบ้างเรามาเริ่มดูกันเลยคร้าบ
1. ทำไมตอนปริ้นรูปภาพถึงออกมาเป็นจุดๆ?
หลายๆคนที่ได้เริ่มใช้งานแล้วส่วนใหญ่คงสงสัยกันนะครับ คำตอบของคำถามข้อนี้ก็คือ เพราะเครื่อง Paperang นั้นรูปที่ปริ้นออกมาจะได้ความละเอียดที่ระดับหนึ่งเท่านั้น คือ ละเอียดสุดอยู่ที่ 100 dpi ซึ่งความละเอียดนี้ทำให้ภาพที่ออกมาละเอียดได้ประมาณนึงอย่างที่เราเห็นกันครับ
2. กระดาษความร้อนไม่ได้ถูกออกแบบมาใช้กับ Scotch tape
ข้อสำคัญมากๆอีกข้อนึงก็คือ กระดาษความร้อนไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับ Scotch tape ยกตัวอย่างเช่น งานปริ้นข้อมูลการจัดส่งไปรษณีย์ แล้วเราต้องแปะ Scotch tape ทับเพื่อป้องกันการหลุดลอก และถ้าหากเราเอากระดาษความร้อนที่ปริ้นจาก Paperang ไปใช้เราจะพบว่า หมึกจะจางหายไป! ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหามาได้ต้องระวังให้ดีนะครับ เหตุผลเพราะอะไรนั้นเดี๋ยวเราไปดูที่หัวข้อถัดไป
จากภาพเป็นการทดลองโดยเอา Scotch tape มาแปะที่ครึ่งนึงของกระดาษแต่ละชนิดที่ปริ้นออกมาจาก Paperang นะครับ
โดยทั้งหมดเริ่มแปะ Scotch tape เมื่อวันที่ 28/08/2017 และเวลาตามที่ผมเขียนลงไปในแต่ละกระดาษแต่ละชนิดตามลำดับ
เมื่อ ผ่านไป 1 วัน คือวันที่ 29/08/2017 เวลา 09:35 ผมได้ทำการถ่ายรูปด้านบนออกมา สรุปได้ดังนี้ครับ
- กระดาษขาว : หมึกด้านที่ถูกแปะ Scotch tape จางหายไปอย่างเห็นได้ชัด
- กระดาษสี (ฟ้า, ม่วง, เหลือง, ชมพู) : หมึกด้านที่ถูกแปะ Scotch tape จางหายไปเพียงเล็กน้อย
- กระดาษ Sticker : หมึกด้านที่ถูกแปะ Scotch tape จางหายไปเล็กน้อยมากๆ
- กระดาษ Photo : หมึกด้านที่ถูกแปะ Scotch tape ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ฉะนั้น หากเราจำเป็นจริงๆที่จะต้องนำกระดาษที่ปริ้นออกมาจาก Paperang ไปใช้กับ Scotch tape ขอให้เลือกใช้เป็น
กระดาษ Photo จะดีที่สุดครับ แต่ ขอย้ำ! อีกหนึ่งครั้งนะครับว่ากระดาษที่ปริ้นออกมาจาก Paperang ไม่ได้ถูกออกแบบมาใช้กับ Scotch tape นะครับ
3. การเก็บรักษากระดาษความร้อน
อย่างที่เราทราบกันว่ากระดาษที่ใช้กับเครื่อง Paperang คือกระดาษความร้อน จึงต้องมีวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง ดังนี้ครับ
- ควรเก็บไว้ในที่มืดและไม่สัมผัสกับแสง
- ควรเก็บไว้ในสถานที่มีอุณหภูมิ 23 ± 5 องศาเซลเซียส
- ควรเก็บไว้ในสถานที่มีความชื้น 50 ± 10 %
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัสดุที่มีผลกระทบต่อเคมีที่เคลือบไว้ เช่น น้ำมัน แอลกอฮอล์ พลาสติกที่มีส่วนผสมของ
พลาสติกไซเซอร์
สารทำละลาย และรอยนิ้วมือ เป็นต้น
นั่นจึงเป็นเหตุผลใน ข้อที่ 2 นะครับว่าทำไมถึงไม่เหมาะไปใช้กับ Scotch tape
4. ขั้นตอนการใส่กระดาษสำคัญไฉน
การใส่กระดาษแต่ละชนิดลงไปในเครื่อง Paperang สำคัญมากๆนะครับ หากเราใส่ผิดด้านมันอาจจะปริ้นไม่ออกได้! นั่นเพราะว่า ด้านที่สามารถปริ้นกระดาษออกมาได้นั้นจะเป็นด้านที่มีสารเคมีเคลือบสำหรับการปริ้นออกจากเครื่อง Paperang เท่านั้น โดยการใส่กระดาษแต่ละชนิดจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- กระดาษขาว กระดาษสี และกระดาษ Photo : ให้เราใส่แบบปกติทั่วๆไปคือ ใส่แบบม้วนกระดาษคว่ำลง เข้าไปนะครับ
- กระดาษ Sticker : จะใส่แปลกกว่าเพื่อนหน่อยครับนั่นคือ ใส่แบบม้วนกระดาษหงายขึ้น
หากเราใส่ผิดด้านเครื่องก็จะไม่สามารถปริ้นออกมาให้เราเห็นได้ จึงต้องคอยระวังให้ดีนะครับ โดยเฉพาะ กระดาษ Sticker และ กระดาษขาว กับ กระดาษ Photo (มี 2 ด้านที่มีสีใกล้เคียงกัน)
5. การเก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
เชื่อว่าหลายๆคนที่ใช้เครื่องปริ้นรูป Paperang คงต้องการที่อยากจะเก็บภาพบางภาพที่สำคัญกับชีวิตเอาไว้เป็นที่ระลึกกัน
สิ่งสำคัญในการเก็บภาพนั้นก็คือเรื่องของกระดาษที่ใช้ครับ เพราะหมึกที่อยู่บนกระดาษแต่ละชนิดนั้นจะจางหายไปตามธรรมชาติตามชนิดของกระดาษครับ
กระดาษที่ผมอยากแนะนำว่ามีความคงทนดีที่สุดก็คือ กระดาษ Photo ครับ ส่วน กระดาษชนิดอื่นๆ ก็จะมีความคงทนที่
น้อยกว่า กระดาษ Photo ภาพก็จะจางหายไปง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาของผู้ใช้เป็นสำคัญ
หากเราเก็บรักษามันไว้อย่างดีด้วยวิธีที่ผมแนะนำไว้ใน ข้อ 3 มันก็จะสามารถมีอายุอยู่นานมากยิ่งขึ้นครับ
6. ปริ้นเยอะๆเครื่องอาจร้อนได้
อย่างที่เราเห็นนะครับว่าเครื่องปริ้นรูป Paperang สามารถปริ้นสื่อต่างๆได้มากมาย ในบางครั้งหากเราอยากจะปริ้นภาพบางอันแล้วภาพๆนั้นมีรายละเอียดมาก มีการใช้หมึกที่มากในภาพนั้น หากเราปริ้นภาพลักษณะนี้ออกมาต่อเนื่อง จะทำให้เครื่องแจ้งเตือนว่าเครื่องร้อนแล้วนะ ดังรูปครับ
ซึ่งจะทำให้เครื่องทำงานติดขัดขึ้นมาทำให้เวลาปริ้นออกมาสีของภาพจะเกิดการขาดตอนขึ้นได้ แต่ถ้าหากเป็นภาพที่ไม่ได้ใช้หมึกมาก ก็จะสามารถปริ้นออกมาได้ลื่นไหลปกติดีครับ
7. ความเข้ม-อ่อนของภาพเมื่อปริ้นออกมา
การปริ้นภาพออกมาแต่ละคนมีมากมายหลากหลายครับ ซึ่งในบางครั้งทำให้เกิดปัญหาออกมาบางส่วน ตัวอย่างเช่น 2 ปัญหานี้
- ปริ้นภาพออกมาแล้วภาพจาง ภาพไม่เข้มเลย : ปัญหานี้อาจเกิดจากที่บางทีก่อนเราจะกดปริ้นออกมา
เราอาจจะไปเผลอปรับ ระดับความเข้ม-อ่อน ก่อนปริ้นออกมาได้ครับ เพราะในฟังก์ชันบางอันจะขึ้นแจ้งมาให้เราตั้งค่า
ก่อนปริ้นมาด้วยว่า จะใช้ความเข้ม-อ่อนเท่าไหร่ดี ซึ่งต้องระวังเผลอไปปรับโดยไม่รู้ตัวกันนะครับ - ปริ้นภาพครั้งแรกออกปกติ แต่พอปริ้นภาพที่สองภาพกลับจางกว่า : ปัญหาข้อนี้อาจเกิดจาก 2 สาเหตุครับ
สาเหตุที่ 1 คือ อาจเผลอไปปรับ ระดับความเข้ม-อ่อน ก่อนปริ้นเหมือนข้อที่แล้วครับ
สาเหตุที่ 2 คือ ช่วงกระดาษที่เราปริ้นอยู่ในขณะนั้นอาจจะยับหรือย่นอยู่ทำให้ปริ้นออกมาแล้วเกิดจางและขาดตอนไปครับ
แต่หากว่าไม่ใช่ทั้ง 2 สาเหตุ อาจจะต้องรบกวนให้คุณนำมาให้ทางร้านเราเชคให้หรือส่งกลับมาให้ทางร้านเชคก็ได้ครับ
8. งานกาวจะนำไปใช้การได้ไหม
บางคนมีคำถามมาว่า แล้วถ้าเอากระดาษที่ปริ้นมาไปทากาวแปะลงบนกระดาษแล้วกาวมันจะซึมขึ้นมาบนรูปมั้ย ผมได้ทำการทดสอบโดยใช้กาวหลากหลายยี่ห้อหลายเวอร์ชั่นมาให้ทุกคนชมกันดังรูปครับ สรุปผลก็คือ กาวไม่มีการซึมขึ้นมาบนรูปให้เห็นเลย ฉะนั้นหายหวงได้ครับเรื่องการนำไปใช้ทากาว แต่ก็อย่าได้ใช้กาวทาลงไปจนเปียกชุ่มมากจนเกินไปนะครับ ไม่อย่างนั้นมันซึมแน่นอน เพราะกระดาษเราไม่ได้หนาขนาดนั้นครับ เอาพอเหมาะๆพอเนอะ
ก็จบลงไปกันแล้วนะครับกับ ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Paperang ทั้ง 8 ข้อ ซึ่งเป็นทั้งข้อมูลเพิ่มเติมและคำถามที่หลายคน
ถามกันมา ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคนได้นำไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
และเพิ่มแนวทางในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของแต่ละคนกันนะครับ
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามกัน ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรต่อไป ติดตามกันให้ดีนะคร้าบ