กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะครับในบทความนี้เราจะมารีวิวสินค้ากัน ซึ่งจะเป็นสินค้าจากแบรนด์ Peak Design ในกลุ่ม Everyday Line นั่นก็คือ Everyday Sling V2 กระเป๋ากล้องสุดกะทัดรัดและด้วยความที่เป็นกระเป๋าที่มีความคล่องตัวสูงทำให้สามารถใช้เป็นกระเป๋าใส่ของประจำวันได้ด้วย โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ Everyday Sling 3L, Everyday Sling 6L และ Everyday Sling 10L ซึ่งผมจะรีวิวเรียงลำดับไปทีละรุ่นจากเล็กไปใหญ่นะครับถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มดูกันเลย
Everyday Sling 3L
มาเริ่มกันที่รุ่นเล็กก่อนเลย Everyday Sling 3L เป็นกระเป๋ากล้องที่มีความจุ 3 ลิตร มีขนาดกะทัดรัดและความคล่องตัวสูง ออกแบบมาทั้งหมด 2 สีคือ สี Black และ สี Ash วัสดุ 400D nylon canvas รีไซเคิล 100% ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ชุบด้วย DWR เคลือบ PU ทนทานทุกสภาพอากาศ นอกจากนี้สี Ash ยังได้รับมาตรฐาน Bluesign ด้วยซึ่งเป็นมาตราฐานที่รับรองว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต
ที่ด้านบนทั้งสองฝั่งของกระเป๋าจะเห็นว่ามีโลหะกลมๆอยู่ตรงนี้จะเรียกว่าจุดหมุนสายสะพาย การออกแบบในลักษณะนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้สายสะพายฉีกขาดได้ เนื่องจากว่าตัวจุดหมุนนี้จะคอยหมุนปรับไปตามการเคลื่อนไหวของคุณไม่ล็อคอยู่กับที่ ทำให้ขณะสะพายตัวสายจะมีความยืดหยุ่นไม่ตึงจนเกินไป ส่วนซิปจะเป็น UltraZips ซิปที่ความทนทานสูง รูดได้ลื่น กันน้ำได้ระดับนึง นอกจากนี้ยังสามารถล็อคซิปเพื่อป้องกันการงัดแงะได้อีกด้วย
มาดูที่รายละเอียดสายสะพายกันบ้าง ตัวสายสะพายของ Everyday Sling 3L จะมีเบาะรองไหล่นุ่มสบายช่วยซัพพอร์ตเวลาที่กระเป๋าหนักๆ จะมีที่ปรับความสั้น-ยาวของสายสะพายซึ่งออกแบบมาให้ปรับได้ง่ายและรวดเร็ว ส่วนตรงกลางสายจะมีตะขออลูมิเนียมและห่วงเกี่ยวกันอยู่ จุดนี้จะมีไว้เพื่อรองรับเวลาที่คุณปรับใช้งานเป็นกระเป๋าคาดเอว
ถัดมาเป็นช่องซิปด้านหน้าจะเป็นช่องซิปสำหรับเก็บอุปกรณ์เล็กๆได้ อย่างเช่น มือถือ พวงกุญแจ ฯลฯ และที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะมีจุดสำหรับติดตั้ง Capture เป็นอุปกรณ์สำหรับพกพากล้องไว้ด้านนอก ใครที่ต้องการพกกล้องไว้ด้านนอกก็สามารถนำมาติดตั้งได้เลย
ต่อไปมาดูที่ช่องหลักกันนะครับ ภายในจะเห็นว่ามีแผ่นจัดระเบียบ หรือ FlexFold อยู่ตรงกลาง 1 แผ่น ซึ่งสามารถถอด-ติดได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังพับเป็น Shelf ลงมาเพื่อปรับให้วางของซ้อนกันได้ด้วย หากคุณไม่ได้ใช้งานก็สามารถถอดแยกไว้ได้เลย ตรงบริเวณมุมกระเป๋าทั้งสองด้านจะมีช่องยางยืดเก็บของชิ้นเล็กๆได้ และที่ฝากระเป๋าก็จะมีช่องซิปเมื่อเปิดออกมาภายในจะมีช่องย่อยสำหรับเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีสายรัดแถมมาให้ 2 เส้นเป็นสายรัดพร้อมตะขอเกี่ยวปรับความยาวได้ ซึ่งเอาไว้สำหรับผูกสัมภาระไว้ด้านนอกกระเป๋าช่วยรองรับเวลาที่คุณเก็บของเข้าไปในกระเป๋าไม่พอหรือมีสัมภาระชิ้นใหญ่ต้องการพกพา
การพกพากระเป๋าสามารถทำได้ 2 รูปแบบคือ สะพายไหล่เป็นกระเป๋าสลิงโดยที่คุณสามารถปรับการสะพายได้ทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาตามถนัดเลย และอีกรูปแบบคือสะพายคาดเอวซึ่งวิธีการปรับก็คือ ให้คุณเสียบเบาะรองไหล่เก็บเข้าไปที่ด้านหลังของกระเป๋าจากนั้นนำตะขออลูมิเนียมเกี่ยวกับห่วงบนสายสะพาย เท่านี้ก็จะได้กระเป๋าคาดเอวแล้ว
Everyday Sling 6L
ต่อมารุ่นกลาง Everyday Sling 6L เป็นกระเป๋ากล้องความจุ 6 ลิตรมีขนาดที่เพิ่มขึ้นมาเท่าตัวจากรุ่น Everyday Sling 3L แต่ยังมีความคล่องตัวอยู่เช่นเดิม ออกแบบมาทั้งหมด 3 สีด้วยกัน คือสี Black สี Ash และสี Midnight ส่วนวัสดุจะมีลักษณะเดียวกันคือ 400D nylon canvas รีไซเคิล 100% ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ชุบด้วย DWR เคลือบ PU ทนทานทุกสภาพอากาศ โดยที่สี Ash และ สี Midnight จะได้รับมาตรฐาน Bluesign ด้วยซึ่งเป็นมาตราฐานที่รับรองว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต
ที่ด้านบนทั้งสองฝั่งยังมีโลหะกลมๆที่เป็นจุดหมุนสายสะพายเช่นเดิม จากภาพสีจะเปลี่ยนไปตามโทนสีของกระเป๋าแต่ก็ยังคงมีคุณสมบัติเหมือนเดิมคือ จะคอยหมุนปรับไปตามเคลื่อนไหวของคุณขณะสะพายใช้งานช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้สายสะพายฉีกขาดได้ และเป็นซิปแบบ UltraZips เช่นกันมีความทนทานสูง รูดได้ลื่น กันน้ำได้ระดับนึง สามารถล็อคซิปเพื่อป้องกันการงัดแงะได้ในลักษณะเดียวกันกับในรุ่น Everyday Sling 3L เลย
ส่วนสายสะพายจะมีลักษณะคล้ายกับสายสะพายของ Everyday Sling 3L คือมีจุดปรับความสั้น-ยาวของสายสะพายปรับได้ง่ายและรวดเร็ว ตรงกลางสายจะมีตะขออลูมิเนียมและห่วงเกี่ยวกันอยู่เช่นกัน แต่จะมีเบาะรองไหล่ของสายสะพายที่จะมีความหนาขึ้นเนื่องจากกระเป๋าใบใหญ่ขึ้น ช่วยให้นุ่มสบายมากขึ้นเวลาสะพายใช้งาน
ถัดมาที่ช่องด้านหน้าจะมีลักษณะเหมือนกับ Everyday Sling 3L เลยแต่จะขนาดใหญ่ขึ้นสามารถเก็บของได้มากขึ้น และที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะมีจุดสำหรับติดตั้ง Capture เช่นกันช่วยให้คุณพกพากล้องไว้ด้านนอกกระเป๋าได้เลยช่วยเพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้งานกล้องได้อีก
ต่อไปมาดูที่ช่องหลักกันบ้างนะครับ ภายในจะมีแผ่นจัดระเบียบหรือ FlexFold อยู่เช่นกัน แต่จะมีอยู่ 2 แผ่นสามารถถอด-ติดได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามต้องการหรือถ้าไม่ต้องการใช้งานก็ถอดแยกไว้ได้เลย ที่ตัว FlexFold จะมีความพิเศษตรงที่สามารถพับเป็น Shelf ลงมาได้ช่วยให้คุณวางอุปกรณ์ซ้อนกันได้เลย ที่มุมกระเป๋าสองด้านก็จะมีช่องยางยืดเก็บของชิ้นเล็กได้ และที่ฝากระเป๋าก็จะมีช่องซิปเมื่อเปิดออกมาภายในจะมีช่องย่อยสำหรับเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆได้
บริเวณด้านหลังจะมีช่องช่องเปิด-ปิดด้วยแม่เหล็กเป็นช่องที่เอาไว้สำหรับเก็บ Tablet ขนาดสูงสุด 11 นิ้ว หรือเก็บของอย่างอื่นที่ต้องการแยกไว้ก็ได้เช่นกัน
และจะมีสายรัดสำหรับผูกของไว้ด้านนอกได้แถมมาอีก 2 เส้นเช่นกัน สามารถนำอุปกรณ์ที่ต้องพกไว้ด้านนอก เช่น เสื้อกันหนาว รัดไว้ที่ด้านล่างกระเป๋าได้เลย
สุดท้ายเรื่องการพกพาก็ยังคงเหมือนกับรุ่น Everyday Sling 3L คือทำได้ 2 รูปแบบ แบบแรกคือสะพายไหล่แบบทรงสลิงโดยที่สามารถปรับสะพายได้ทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาแล้วแต่ความถนัด และแบบสองคือสะพายคาดเอวโดยการปรับจะใช้วิธ๊เดียวกัน แต่แนะนำว่าหากปรับเป็นการสะพายคาดเอวไม่ควรเก็บของในกระเป๋ามากเกินไปเพราะจะทำให้น้ำหนักกระเป๋าถ่วงลงมา
Everyday Sling 10L
สุดท้ายกระเป๋าทรงสลิงรุ่นใหญ่สุด Everyday Sling 10L ในรุ่นนี้จะเป็นกระเป๋ากล้องที่เต็มรูปแบบมากขึ้นมีความจุถึง 10 ลิตร ออกแบบมาทั้ง 2 สีด้วยกันคือ สี Black และสี Ash ตัววัสดุก็จะเหมือนกันกับ 2 รุ่นก่อนหน้าคือ 400D nylon canvas รีไซเคิล 100% ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ชุบด้วย DWR เคลือบ PU ทนทานทุกสภาพอากาศ โดยที่สี Ash จะได้รับมาตรฐาน Bluesign ด้วยซึ่งเป็นมาตราฐานที่รับรองว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต
ที่ด้านบนทั้งสองฝั่งจะมีโลหะกลมๆเป็นจุดหมุนสายสะพายเหมือนกับ จะทำหน้าที่คอยหมุนปรับไปตามการเคลื่อนไหวของคุณขณะสะพายใช้งานช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้สายสะพายฉีกขาดได้ ส่วนซิปก็จะเป็น UltraZips มีความทนทานสูง รูดได้ลื่น กันน้ำได้ระดับนึง สามารถล็อคซิปได้เช่นกันแต่จะมีรูปแบบที่แตกต่างกับ 2 รุ่นก่อนหน้า ตรงที่จะมีห่วงอยู่ที่ปลายซิปด้านนึงสำหรับล็อคโดยเฉพาะ คุณสามารถนำหูซิปมาเสียบเก็บไว้ที่ห่วงได้เลย
ที่สายสะพายยังคงมีเบาะรองไหล่ที่มีความนุ่มอีกเช่นกันซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นตามขนาดของกระเป๋า มีที่ปรับความสั้น-ยาวของสายสะพายปรับได้ง่ายและรวดเร็ว แต่จะไม่มีตะขออลูมิเนียมกับห่วงเกี่ยวแล้ว เนื่องจาก Everyday Sling 10L จะไม่สามารถปรับการสะพายเป็นคาดเอวได้เพราะใบใหญ่เกินไปจึงไม่ค่อยเหมาะ
ในส่วนของช่องเก็บของด้านหน้าจะค่อนข้างใหญ่สามารถเก็บของได้พอสมควรเลย และที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะมีที่ติด Capture อีกเช่นกัน แม้จะมีความจุถึง 10 ลิตรแต่หากเก็บกล้องและอุปกรณ์ในกระเป๋ายังไม่จุใจพอ ก็สามารถนำกล้องมาพกติดไว้ด้านนอกได้เลย
ที่ช่องหลักของกระเป๋าจะมีความกว้างมาก ภายในจะมีแผ่นจัดระเบียบหรือ FlexFold อยู่ 2 แผ่นเหมือนกับรุ่น Everyday Sling 6L แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า สามารถถอด-ติดปรับตำแหน่งไปมาได้เช่นกันหากไม่ใช้งานก็ถอดแยกไว้ได้เลย ส่วนช่องยางยืดด้านข้างที่ 2 รุ่นก่อนหน้านี้มีในรุ่น Everyday Sling 10L จะถูกตัดออกไปเพื่อที่จะได้มีพื้นที่ภายในเต็มที่ ส่วนช่องซิปตรงฝากระเป๋ายังคงมีอยู่ภายในจะมีช่องสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆได้
ที่บริเวณด้านหลังมีช่องเปิด-ปิดด้วยแม่เหล็กสำหรับเก็บของได้เช่นกัน มีขนาดใหญ่มากพอสำหรับเก็บ Laptop ขนาด 13 นิ้วได้เลยแต่แนะนำว่าต้องเป็น Laptop ที่ค่อนข้างบางนิดนึงและไม่หนา เช่น Macbook Pro 13″
มาพร้อมกับสายรัดอีก 2 เส้นเช่นกันสำหรับผูกอุปกรณ์พกพาไว้ด้านนอกกระเป๋า ซึ่งด้วยขนาดของกระเป๋าสามารถนำ Travel Tripod ขาตั้งกล้องจาก Peak Design ที่ใส่อยู่ในเคสมาผูกติดไว้ด้านล่างกระเป๋าได้พอดีเลย หรือหากมีอุปกรณ์อื่นก็สามารถนำมาพกในลักษณะได้เช่นกัน
ที่หูจับด้านบนของ Everyday Sling 10L นอกจากใช้หยิบจับกระเป๋าแล้ว ยังสามารถนำไปเสียบกับที่ลากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางได้อีกด้วย
สุดท้ายเรื่องการพกพา Everyday Sling 10L สามารถทำได้รูปแบบเดียวคือการสะพายไหล่แบบสลิง โดยสามารถปรับการสะพายได้ทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาตามความถนัดของคุณเลย
ก็จบลงไปแล้วนะครับกับการรีวิว Everyday Sling V2 จาก Peak Design ทั้ง 3 รุ่น อย่างที่เห็นว่าไม่ว่าจะรุ่นไหนก็มีความคล่องตัวมากและมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋ากล้องหรือกระเป๋าใช้ประจำวันดีๆสักใบหรือหลายๆใบนะครับ สุดท้ายนี้ถ้าใครสนใจหรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มของกระเป๋าทั้ง 3 รุ่นนี้ สามารถคลิกเข้าไปดูที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับ