กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกๆท่านด้วยนะครับ ในบทความนี้เราจะมารีวิวสินค้าในกลุ่ม Everyday Line จาก Peak Design กันอีกเช่นเคย โดยในรอบนี้จะเป็นกระเป๋า Tote ที่ใช้งานเป็นกระเป๋นกล้องและกระเป๋าใช้ประจำวัน 2 รุ่น ด้วยกันคือ Everyday Totepack และ Everyday Tote V2 โดยจะเป็นการรีวิวเรียงไปทีละรุ่น และในตอนท้ายจะมีการเปรียบเทียบความแตกต่างกัน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันครับ
Everyday Totepack
Everyday Totepack เป็นกระเป๋ากล้องที่สามารถพกพาได้ 2 แบบ คือ กระเป๋าถือ และ กระเป๋าสะพายหลัง มีความจุอยู่ที่ 20 ลิตร ขยายได้ (Roll top) สูงสุด 25 ลิตร สามารถเก็บกล้อง เลนส์ อุปกรณ์ต่างๆ หรือเก็บของประจำวันสำหรับ 1 วันได้อย่างพอดี
วัสดุ
วัสดุ Nylon Canvas เส้นใยพลาสติกรีไซเคิล 100% เคลือบ DWR ชุบ PU ทนทานทุกสภาพอากาศช่วยป้องกันน้ำได้ในระดับนึง ซึ่งรุ่นที่เป็นสี Bone ได้รับมาตรฐาน Bluesign ที่บ่งบอกว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวลดล้อมตลอดกระบวนการผลิต
หูจับกระเป๋า
หูจับกระเป๋าเป็นสาย 2 เส้นที่มีความนุ่มจับง่ายสบายมือ โดยที่ตัวสายมีคุณสมบัติแม่เหล็กช่วยให้สามารถรวบหูจับ 2 เส้นเข้าด้วยกันได้ทำให้จับได้สะดวกยิ่งขึ้น
สายสะพายไหล่
สายสะพายไหล่ออกแบบมาให้มีความนุ่มช่วยให้สะพายนานๆได้สบาย มีจุดหมุนช่วยรองรับแรงเหวี่ยงป้องกันสายฉีกขาด มีการปรับสายสะพายได้โดยการใช้ตะขอเกี่ยวกับห่วงของสายในระดับต่างๆ ซึ่งสายสะพายสามารถเก็บได้เพื่อปรับเป็นกระเป๋าถือได้ด้วย
สายสะพายไหล่ออกแบบมารองรับการติดตั้งกับ Capture อุปกรณ์ที่ช่วยพกพากล้องไว้ด้านนอกกระเป๋าได้ด้วย
ช่องเปิดด้านบน
ช่องด้านบนเป็นแถบแม่เหล็กเปิด-ปิดได้รวดเร็ว มาพร้อมกับ UltraZips ซิปที่ออกแบบโดย Peak Design เอง เป็นซิปที่มีความทนทานสูง รูดได้ง่าย และมีการเคลือบช่วยให้กันน้ำได้ระดับนึง ทำให้เปิด-ปิดกระเป๋าได้ 2 แบบคือ ถ้าอยากปิดกระเป๋าแบบแน่นหนาให้ปิดซิปพร้อมกับแถบแม่เหล็ก แต่ถ้าอยากเปิด-ปิดหยิบของสะดวกให้ใช้แค่การปิดแถบแม่เหล็ก
ช่องเปิดด้านหน้า
ที่ด้านหน้าจะมีช่องซิปเปิด-ปิดสำหรับจัดระเบียบของชิ้นเล็กๆ เช่น SD Card แบตเตอรี่ ฯลฯ มาพร้อมสายคล้องกุญแจสามารถนำพวงกุญแจมาติดไว้ได้ ช่วยลดปัญหาการหากุญแจไม่เจอเวลาที่ต้องการใช้งานได้
ช่องเปิดด้านข้าง
ช่องเปิดด้านข้างเป็นการเปิด-ปิดตัว UltraZips ที่อยู่ทั้ง 2 ข้างของกระเป๋า การเปิดแบบนี้ช่วยให้สามารถใช้งานเปิดหยิบของจากด้านข้างขณะสะพายกระเป๋าอยู่ได้ หรือที่เรียกว่า Side Access นั่นเอง นอกจากนี้ตัวซิปสามารถล็อคได้ด้วยช่วยป้องกันขโมยได้
แผ่นจัดระเบียบ FlexFold
FlexFold เป็นแผ่นจัดระเบียบภายในกระเป๋าพับไปมาได้ สามารถถอด-ติดได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนช่วยให้จัดระเบียบได้หลากหลาย มีความทนทานสูงช่วยเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ปลอดภัย
ช่องเก็บ Laptop
ภายในช่องหลักจะมีช่องสำหรับแยกเก็บ Laptop 15 นิ้ว และ Tablet 11 นิ้ว โดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้ไปปะปนกับของที่เก็บอยู่ใน FlexFold
สายรัดอุปกรณ์ด้านนอก
แม้ Everyday Totepack จะไม่ใช่กระเป๋าที่มีความจุมากมาย แต่ก็จะมีการให้สายรัดสำหรับพกอุปกรณ์ด้านนอกมา 2 เส้น เพื่อรองรับการใช้งานผูกของพกไว้ด้านนอกกระเป๋าได้ โดยที่ของที่สามารถพกได้จะต้องเป็นของขนาดกลางน้ำหนักไม่มากจนเกินไป เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อแจ็คเก็ต ฯลฯ
Everyday Tote V2
Everyday Tote V2 เป็นกระเป๋ากล้องที่พกพาได้ 3 รูปแบบคือ กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายไหล่ และกระเป๋าสลิง ความจุ 15 ลิตร ขยายได้ (Roll top) สูงสุด 20 ลิตร สามารถใช้งานได้ทั้งเป็นกระเป๋ากล้องหรือใส่ของประจำวัน 1 วันก็ได้เช่นกัน
วัสดุ
ในเรื่องวัสดุจะเหมือนกับ Everyday Totepack เลยก็คือ เป็นวัสดุ Nylon Canvas เส้นใยพลาสติกรีไซเคิล 100% เคลือบ DWR ชุบ PU ทนทานทุกสภาพอากาศช่วยป้องกันน้ำได้ในระดับนึง ซึ่งรุ่นที่เป็นสี Bone ได้รับมาตรฐาน Bluesign ที่บ่งบอกว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวลดล้อมตลอดกระบวนการผลิต
สายกระเป๋าทั้ง 2 แบบ
Everyday Tote V2 มีสายกระเป๋า 2 รูปแบบคือ สายกระเป๋าเส้นเดียวสำหรับสะพายสลิงหรือสะพายไหล่ตรงบุมาให้มีความนุ่มสามารถถอดออกเพื่อเก็บได้ และสายกระเป๋าสองเส้นสำหรับถือหรือสะพายไหล่ที่สามารถซ่อนเก็บได้เวลาไม่ได้ใช้งาน ช่วยปรับให้กระเป๋าดูคลีนสะอาดตาขึ้น
ช่องเปิดด้านบน
ช่องเปิดด้านบนจะมีความคล้ายคลึงกับ Everyday Totepack คือเป็นแถบแม่เหล็กเปิด-ปิดได้รวดเร็วมาพร้อมกับ UltraZips ซิปที่ออกแบบโดย Peak Design เป็นซิปที่มีความทนทานสูง รูดได้ง่าย มีการเคลือบกันน้ำได้ระดับนึง ถ้าต้องการใช้งานเปิด-ปิดหยิบได้รวดเร็วให้ใช้แค่การปิดด้วยแถบแม่เหล็ก แต่ถ้าต้องการใช้งานเปิด-ปิดแบบแน่นหนาให้ใช้การปิดทั้งแถบแม่เหล็กและ UltraZips
แผ่นจัดระเบียบ FlexFold
เมื่อเปิดเข้ามาที่ช่องหลักจะมี FlexFold แผ่นจัดระเบียบภายในกระเป๋าเช่นกัน สามารถพับไปมาและถอดติดเพื่อจัด FlexFold ในแนวตั้งได้ ช่วยปกป้องอุปกรณ์และจัดระเบียบได้ตามต้องการ และยังมีช่องยางยืดสำหรับเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ
ช่องเก็บ Laptop
นอกจากนี้ภายในช่องหลักยังมีช่องสำหรับแยกเก็บ Laptop ขนาด 13 นิ้ว ช่วยแบ่งให้เป็นสัดเป็นส่วนไม่ไปปะปนกับอุปกรณ์ที่เก็บอยู่ใน FlexFold
ช่องเปิดด้านหน้า
ที่ด้านหน้าจะมีแถบแม่เหล็กพร้อมกับซิปเปิด-ปิดอยู่ เมื่อเปิดออกมาภายในจะเป็นช่องสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆ เช่น SD Card แบตเตอรี่ ฯลฯ และยังมีสายคล้องกุญแจช่วยพกกุญแจเก็บไว้ในช่องนี้ได้เลย
ช่องเสียบที่จับ Luggage
เมื่อพลิกมาอีกด้านนึงที่ด้านหลังจะมีแถบแม่เหล็กเช่นกัน ซึ่งไม่ได้เป็นช่องเก็บแต่จะเป็นช่องสำหรับเสียบกับที่จับ Luggage เพื่อพกพาไปพร้อมกันได้
สายรัดอุปกรณ์ด้านนอก
Everyday Tote V2 เป็นกระเป๋าที่ความจุไม่มากเช่นเดียวกับ Everyday Totepack แต่ก็ยังมาพร้อมสายรัดพกอุปกรณ์ด้านนอก 2 เส้น เผื่อในบางสถานการณ์ต้องมีการพกของไว้ด้านนอกกระเป๋า ซึ่งของที่จะพกได้ต้องเป็นของที่มีน้ำหนักไม่มาก เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อแจ็คเก็ต ฯลฯ
สีของทั้ง 2 รุ่น
สุดท้ายเป็นเรื่องของสี โดยทั้ง 2 รุ่นออกแบบมามี 2 สีเหมือนกันคือ Bone และ Black
