สวัสดีชาว Peak Design ผู้น่ารักทุกท่านอีกครั้งนะครับ ก่อนสิ้นปีนี้พวกเรามีเรื่องราวน่าตื่นเต้นเข้ามากันอีกแล้ว
นั่นก็เพราะว่าเรามีสินค้าตัวใหม่มาเปิดต้อนรับศักราชใหม่กันอีกแล้ว โดยเป็นตัวที่พวกเราคุ้นเคยรู้จักกันเป็นอย่างดี
ซึ่งก็คือ Capture v3 อุปกรณ์พกพากล่องสุดฮิต แน่นอนเขาต้องมาคู่กับ PROpad (NEW) ผู้ช่วยของเขา
เราจะมารีวิวกันครับว่ามันมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆบ้างและต่างจากรุ่นเดิมอย่างไร ใช้ร่วมกันได้ไหม งั้นก็ไปดูกันเล๊ยยย
All New Capture v3
หากกล่าวถึงสินค้าในหมวดอุปกรณ์กล้องตัวที่จัดว่าเป็นพระเอกเลยนั่นก็คือตัว Capture Camera นั่นเองครับ
โดยหากใครที่เคยใช้ Peak Design ต้องรู้จักแน่นอนว่ามันคืออะไร มันก็คือตัวอุปกรณ์พกพากล้องนั่นเองครับ
ซึ่งเขาก็ออกมาให้เราใช้กันหลากหลายรุ่นแล้ว โดยรุ่นล่าสุดที่เราจะมารีวิวกันนี้ก็มาไกลถึงรุ่นที่ 3 แล้ว
เดี๋ยวเรามาดูกันครับว่ามันจะมีทีเด็ด มีฟีเจอร์อะไรเพิ่มเติม และต่างไปจากรุ่นก่อนยังไงบ้าง
เมื่อเปิดกล่องมาจะมีของ 6 อย่างด้วยกัน คือ Capture v3 1 ชิ้น Standard Plate 1 ชิ้น Bolt Pack 1 ชุด (4 ชิ้น)
กระเป๋าผ้าใส่อุปกรณ์ 1 ใบ ตัวหกเหลี่ยมสำหรับไข 1 อัน และสติ๊กเกอร์ Peak Design 1 แผ่น
รูปทรงของมันจะเห็นว่าดูมี ความเรียบง่าย หรูหรา น่าใช้มากขึ้น และถ้าได้ลองสัมผัสดูมันจะมีความเรียบ ลื่น กว่ารุ่นเดิม
ยังคงสามารถใช้ได้กับกล้องทุกชนิด และออกมาให้เลือกกันถึง 2 สีด้วยกัน คือ สีดำ และ สีเงิน ตามสไตล์เราเลย
ถ้าหากลองมาเทียบกับรุ่นเดิม จะเห็นว่า มีน้ำหนักเบาขึ้น 30% ขนาดเล็กลง 20% และมีขนาดบางลง 20%
แม้ว่ารูปร่างมันจะดูเพรียวดูบางลง แต่เรื่องความแข็งแรงทนทานนั้นยังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย
ที่บริเวณด้านในของ Capture v3 จะเห็นว่ามีแถบยางเพิ่มขึ้นมาเพื่อมาป้องกันการเกิดการลื่นขึ้นได้ด้วย
ส่วนที่ด้านหลังจะเห็นว่าไม่มีรูสำหรับเสียบกับขาตั้งกล้องแบบรุ่นก่อนแล้ว แต่จะเรียบเนียนไปเลยครับ
ตัว Standard Plate จะมีความบางกว่ารุ่นเดิม เมื่อไปติดใต้กล้องเราจะมีความเรียบเนียนบางเฉียบกว่าเดิม
ที่รูทั้ง 4 ด้านไว้สำหรับผูกตัว Micro Anchor เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นของ Peak Design
และตัว Standard Plate สามารถใช้กับขาตั้งกล้องแบบ ARCA-type ได้เลยทันทีครับ
แต่ถ้าหากว่าเราต้องการไปใช้กับขาตั้งกล้องจำพวก Manfrotto RC-2
ก็จะมี Dual plate (ขายแยก) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานโดยเฉพาะเลยครับ
อีกสิ่งที่สำคัญเลยคือตัว Capture v3 เราสามารถเอา Plate รุ่นเก่ามาเสียบใช้งานได้อีกด้วยนะ เจ๋งป่ะล่าาา
หากมี Plate รุ่นเก่าอยู่และอยากใช้ Capture v3 ก็สามารถซื้อตัว Capture v3 (Clip Only) แบบแยกมาใช้ได้ด้วย
ทีนี้เรามาดูตัว Bolt Pack คืออะไร? มันคือตัวน็อตยึดของ Capture v3 นั่นเองครับ แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
น็อตแบบการติดชั่วคราว (Temporary) 2 ตัว และน็อตแบบการติดกึ่งถาวร (Semi-permanent) 2 ตัว
ซึ่งมันเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาครับ คือในการใช้งาน Capture v3 สามารถที่จะติดกับสายเข็มขัดหรือสายกระเป๋าได้ทุกแบบ
ที่เราเคยใช้กันคือการหมุนเข้าหมุนออกปกติ (Temporary) แต่อีกแบบที่เพิ่มมาคือการติดแบบแน่น (Semi-permanent)
มันคือการใช้ตัวหกเหลี่ยมไขล็อคเข้าไปให้แน่นเลยทำให้ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยกับกล้องของเรามากขึ้นไปกว่าเดิมด้วยครับ
ติดแบบชั่วคราว (Temporary)
ติดแบบกึ่งถาวร (Semi-permanent)
ตรงส่วนบริเวณปุ่มปลดล็อค Plate ก็ยังคงมีระบบป้องกัน (Safety) ไว้เช่นเคย โดยที่ปุ่มมันสามารถหมุน
เพื่อล็อคป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายที่เราคาดไม่ถึงได้ และเมื่อต้องการปลดล็อคก็หมุนกับมาตำแหน่งเดิม
อีกเรื่องที่สำคัญคือการรับน้ำหนัก แม้ว่าตัวจะเบา เล็ก และบางกว่าเดิม แต่การรับน้ำหนักนั้นยังคงรับได้ถึง 200 ปอนด์
(90 กิโลกรัม) และหากใครที่ต้องการใช้กับกล้องที่มีขนาดบอดี้และเลนส์ที่ใหญ่มากๆ เขาก็มี PROpad (NEW)
ตัวช่วยในการรับน้ำหนักอีกด้วย ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายและมั่นคงยิ่งขึ้นเมื่อใช้งาน Capture v3 ครับ
PROpad (NEW)
PROpad (NEW) ตัวล่าสุดนี้เราจะเห็นว่าหน้าตาแตกต่างไปจากรุ่นเดินเยอะเลย สีเปลี่ยนไปเป็นสี Charcoal
รูปร่างดูมีความบางลง ดูดีขึ้น ด้านหน้าจะมีโลโก้ Peak Design อยู่สามารถพับขึ้น-ลงได้
บริเวณด้านหลังจะมีความแข็งมากครับ ช่วยซับแรงกดได้อย่างดีเลย อีกจุดที่สำคัญเลยคือที่ด้านใน
จะเห็นว่ามีผ้าที่เป็นยางยืดสีดำแข็งแรงมากไว้สำหรับเสียบตัว Capture v3 ให้มีความกระชับมากขึ้นครับ
เราสามารถนำไปติดได้ทั้งสายเข็มขัดและสายกระเป๋าได้ทุกรูปแบบเลย สะดวกสบาย และมันโคตรเท่ห์เลยทุกคนนน
เป็นยังไงกันบ้างครับกับการรีวิวสินค้าตัวใหม่อย่าง Capture v3 และเจ้าตัว PROpad (NEW) หวังว่ารีวิวนี้
คงจะถูกใจพวกเราทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ และอย่าลืมรีบไปเป็นเจ้าของกันนะครับ ของดีอย่างนี้ช้าหมดอดแน่นอน
ขอขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามกันนะครับ ครั้งหน้าจะเป็นรีวิวสินค้าตัวไหนต่อไป รอชมกันได้เลยคร้าบ