สวัสดีคร้าบบ ในบทความนี้เราจะมาดูคลิปรีวิวกระเป๋ากันขโมย ClickPack PRO จากต่างประเทศกาน
โดยในวันนี้เป็นคิวของอาตี๋พูดเก่งคนนี้ James Chia ซึ่งเรียกว่าท่านนี้ผ่านการรีวิวสินค้ามาแล้วหลากหลาย
รวมถึงกระเป๋ากันขโมยจากแบรนด์ต่างๆ และเป็นรีวิวที่มีคุณภาพ คนติดตามมากมาย
แต่แน่นอนครับว่านี่คือรีวิว เพราะงั้นเนื้อหาในคลิปนี้ก็จะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเขาทั้งหมดเลย
งั้นเรามาดูกันว่าเขาจะพูดถึง ClcikPack PRO กันว่ายังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปรับชมกันเลยคร้าบ
จากในคลิปนะครับ จะเห็นว่าการรีวิวของเขาละเอียดมากๆ โดยเขาได้มีสิ่งที่เรียกว่า Score Sheet
หรือก็คือใบเชคคุณภาพแต่ละส่วนให้กับกระเป๋ากันขโมย ClickPack PRO ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย
1. Exterior Design : ดีไซน์ คุณภาพภายนอก โดยรวมทั้งหมด
ดีไซน์ภายนอก
ดีไซน์ภายนอกทำออกมาได้อย่างดีและคุณภาพสูงเลยทีเดียว ตัวหูจับกระเป๋าก็ทำออกมาได้ดูดีสุดๆ
มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากเหมาะแก่การถือไปไหนมาไหนมากๆครับ
ด้านหลังของกระเป๋า
ด้านหลังจะมีช่องซิปซ่อนเอาไว้อยู่สำหรับใส่ของมีค่าอย่างกระเป๋าตังค์ โดยมันเป็นส่วนเดียวกันกับตัวกระเป๋าเลยไม่ยื่นออกมา
ให้เกะกะซึ่งดีมากครับ และก็มีช่องต่อ USB สำหรับต่อชาร์จแบตจากข้างในออกมา
สายสะพายทั้ง 2 ข้าง
ที่สายสะพายฝั่งแขนขวาก็จะมีช่องสำหรับใส่บัตรต่างๆ ใส่สาย USB หรือจะของเล็กๆอะไรก็ได้ที่สำคัญคือ
มันมีซิปปิดไว้ไม่ทำให้ของร่วงลงมาอีกด้วย ส่วนสายสะพายฝั่งซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ของชิ้นเล็กๆเช่นกัน แต่จะเป็นช่องเปิดครับ
ซิปล็อคด้วยระบบ TSA Lock
ตัวซิปช่องหลักของกระเป๋าเป็นซิปล็อคด้วยระบบ TSA Lock (ดูรายละเอีดเพิ่มเติม เช่น
การตั้งรหัส ได้ที่ ระบบ TSA Lock คืออะไร?) ซึ่งมันล็อคได้อย่างแน่นหนาและเป็นระบบที่เป็นมาตราฐานทั่วโลก
แถบสะท้อนแสง
หน้ากระเป๋ามีแถบสะท้อนแสงในเวลากลางคืนหรือในตอนที่มีแสงน้อยมีถึง 5 จุด ด้วยกันคือ
ด้านบน 2 จุด ด้านล่าง 2 จุด และสัญลักษณ์กลมๆค่อนมาด้านล่างอีก 1 จุด
เนื้อหนังกระเป๋า
เนื้อผ้ากระเป๋าที่เป็นส่วนสายกระเป๋า ด้านข้างกระเป๋า และด้านหน้า ส่วนที่เป็นสีดำๆจะเป็นวัสดุกันน้ำ (Waterprooff)
แต่ส่วนที่อยู่ด้านในที่ไว้สำหรับรองรับหลังของเราเอาไว้ จะเป็นเนื้อผ้าคล้ายๆแบบตาข่ายซึ่งไม่กันน้ำครับ
ขด-ลวด ยืดหดได้
ส่วนถัดมาจะเป็น ขดลวดยืด-หดได้ คล้ายกับสายบันจีจัมพ์ เอาไว้สำหรับไปพันเกี่ยวกับ เช่น ขาเก้าอี้
แล้วเอาปลายสายมาล็อคกับตัวกระเป๋า เพียงเท่านี้กระเป๋าเราก็จะถูกล็อคเอาไว้ไม่ขยับไปไหน
ใช้ได้หลากหลายสถานที่ตามที่คุณอยู่เลย และเมื่อไม่ใช้ก็เก็บเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ช่องเก็บร่มหรือขวดน้ำ
ส่วนต่อมาด้านข้าง จะเห็นมีช่องและข้างในจะมีลักษณะเหมือนถุงซ่อนอยู่เอาออกมาได้ ใช้สำหรับใส่ขวดน้ำหรือร่มพกพาได้
และยังมีตะขอสำหรับเกี่ยวไว้กับตัวกระเป๋าไม่ให้มันแกว่งไปมาอีกด้วยครับ และเมื่อไม่ใช้ก็เก็บเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
2. Straps :วัสดุของสายที่ใช้ปรับกระเป๋า
วัสดุของสายที่ใช้ปรับกระเป๋านั้นจะเห็นว่าดูดีเลยทีเดียว ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์
ดูเรียบๆแต่ก็มีความแข็งแรงมากเพียงพอ และวัสดุตัวคล้องสายก็ดูดีมากเลยทีเดียวครับ
3. Exterior Features : ฟีเจอร์ภายนอก
ระบบซิปล็อคที่ต่างจาก Backpack ตัวอื่น
ฟีเจอร์เด็ดที่สุดคงต้องพูดถึงระบบซิปล็อค นั่นเพราะว่ากระเป๋า Backpack ยี่ห้ออื่นจะเป็นซิปแบบซิปซ่อนซึ่งบางครั้ง
มันไม่ค่อยสะดวกเวลาที่ต้องการจะเปิดซิป และก็ไม่ค่อยจะมั่นใจในความปลอดภัยด้วย หากมีคนมาแอบเปิดกระเป๋าเรา
แต่ถ้าเป็นแบบต้องใส่รหัสผ่าน 3 หลักแบบของ ClickPack PRO คนก็จะมาเปิดกระเป๋าเราได้ยากมากๆครับ
ฟีเจอร์การสะท้อนแสงและขนาดกระเป๋า
ฟีเจอร์การสะท้อนแสงตามจุดที่บอกคือดีมากๆ และด้านข้างของกระเป๋าจะเห็นว่าไม่ได้หนามาก
วัสดุด้านข้างและด้านล่างของกระเป๋าก็เป็นแบบเดียวกัน เรียกได้ว่าหากเห็นครั้งแรกได้หลงเสน่ห์มันแน่
ช่องลับสำหรับห้อยพวงกุญแจ
ยังมีซิปที่ถูกซ่อนอยู่ด้านข้างอยู่อีก เมื่อเปิดออกมาจะเป็นช่องกระเป๋าเล็กๆอยู่
ข้างในมีที่เอาไว้สำหรับห้อยพวงกุญแจได้ และสามารถถอดเข้าหรือถอดออกได้อีกด้วย
4. Interior Features : ฟีเจอร์ภายใน
กระเป่าถอดเข้า-ออกได้ 2 ใบ (Removable Storage)
กระเป๋าสามารถกางออกได้ 180 องศา เมื่อเปิดเข้ามาจะพบว่ามี กระเป๋าเล็กๆอยู่ 2 ใบ ได้แก่ ใบแรกจะเอาไว้สำหรับ
ใส่อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในห้องน้ำ มีช่องแบ่งอย่างดี และมีตะขอไว้สำหรับแขวนได้อีก แล้วก็มีตีนตุ๊กแกสำหรับติดอยู่ด้านหลังด้วย
อีกใบหนึ่งก็จะเป็นกระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ มีช่องแบ่งไว้ดีมาก และส่วนด้านหลังมีตีนตุ๊กแกอยู่เช่นกัน
ป้ายสำหรับคล้องกระเป๋าเดินทาง
มีป้ายไว้สำหรับห้อยกระเป๋าเดินทางติดมาให้ด้วย ซึ่งก็จะมีที่ว่างไว้ให้เรากรอกข้อมูลสำคัญๆลงไป
และจากนั้นเราก็เอาไปห้อยกับกระเป๋าเดินทางได้เลย
RFID Block
ถัดมาจะเป็นกล่องสีขาวๆภายในจะเป็น ถุงผ้า RFID Block ซึ่งเนื้อวัสดุจะป้องกันสัญญาณ RFID Block โดยเฉพาะ
เมื่อเรามีบัตรสำคัญต่างๆเราเอามันใส่เข้าไปและพับเก็บไว้ รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ถูกโจรกรรมทางบัตรเครดิตแน่นอน
Rain Cover
ตัวถัดมาจะเป็น Rain Cover หรือถุงคลุมกันฝน ซึ่งมันสามารถคลุมกระเป๋าได้อย่างมิดชิด
โดยที่ยังเหลือตัวหูจับและสายสะพายไว้ให้กับเราอีกด้วย แต่เมื่อคลุมถุงกันฝนอยู่เราจะไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าได้
และแน่นอนว่าแม้กระเป๋าจะเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่มีทางที่จะทำให้ของข้างในเราเปียกเลย
ตัวถุงเก็บ Rain Cover ยังมีตะขอไว้สำหรับเราไปห้อยเกี่ยวกับกระเป๋าใบอื่นๆได้อีกด้วย
ด้านทั้ง 2 ของกระเป๋า
-
ด้านที่มี Removable Storage
ด้านนี้จะมีที่สำหรับแปะติดกระเป๋าใบเล็กทั้ง 2 ใบข้างต้นมีช่องแบ่งอย่างละเอียดสำหรับใส่ปากกา
อุปกรณ์เครื่องเขียน เอกสารต่างๆ หรือจะกระเป๋าตังค์ได้อย่างเป็นสัดส่วนที่ดี
-
ด้านที่มีช่องใส่ Laptop
ด้านนี้จะเห็นมีช่องสัญลักษณ์แบตเตอรี่ภายในจะมีสาย USB แบบถักเก็บเอาไว้อยู่ ซึ่งสามารเอา Power Bank เก็บไว้ในนี้ได้
และก็จะมีช่องสำหรับใส่ Laptop ขนาดสูงสุด 15.6 นิ้ว และ ช่องใส่ Tablet ขนาดสูงสุด 10 นิ้ว
ที่สำคัญภายในช่องใส่ Laptop มีความนุ่มมากๆ ช่วยปกป้องและกันกระแทกได้เป็นอย่างดี
5. Space Management : การจัดสรรเนื้อที่
ส่วนนี้ Jame Chia จะทดสอบให้เราดูถึงประสิทธิการจัดเก็บของมันว่าสามารถทำได้ดีแค่ไหน
โดยเขาได้นำกระเป๋าอีกใบของเขาที่มีของใส่อยู่เต็มใบไปหมด นำออกมาและเอาไปใส่ใน ClickPack PRO กัน
ซึ่งจะเห็นว่ามีของเยอะมาก แต่ก็สามารถยังใส่เข้าไปได้หมดเลย และยังเป็นสัดเป็นส่วนดี ดูเป็นระเบียบ
ที่สำคัญหากว่าเราไม่ใช้ Removable Storage ก็ถอดออกมาได้ ทำให้กระเป๋ามีพื้นที่เพิ่มอีก
6. Comfort : ความสะดวกสบาย
ทีนี้ Jame Chia ได้ลองเอากระเป๋าที่ใส่ของเต็มพิกัดหนักประมาณ 6 kg มาสะพาย ปรับสายให้เข้ากับตัวดู
ก็รู้สึกว่าสบายตัวดีมากไม่เหมือนแบกของ 6 kg อยู่ที่หลังเลย เมื่อสะพายกระเป๋าระหว่างการเดินทาง
การที่เราจะหยิบบัตร หรือสาย USB ที่เก็บไว้ที่สายสะพายทั้ง 2 ด้านก็เป็นเรื่องง่ายมาก
และการจะเสียบสาย USB เข้ากับช่องเพื่อชาร์จแบตก็ทำได้ขณะกำลังเดินอยู่เลย
7. Anti-Theft & Security : ความปลอดภัยและการกันขโมย
ฟีเจอร์ซิปล็อคด้วยระบบ TSA Lock กับการตั้งรหัสตัวเลข 3 ตัว ก็เป็นเรื่องที่ยากในการจะเอาของที่อยู่ภายใน
ตัว ลวดยืด-หดได้ ก็เป็นพีเจอร์สำคัญในการกันขโมยเพราะมันจะยึดกระเป๋าอยู่กับที่ไม่ถูกหยิบออกไปไหน
และอีกส่วนคือ การกันกรีด เมื่อทดสอบดูที่เนื้อผ้ากันกรีดสีเทา จะไม่สามารถกรีดเข้าได้
และไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลย ส่วนเนื้อผ้าอื่นที่เหลือไม่กันกรีด แต่ก็พอมีความต้านทานและขาดยากพอสมควร
8. Weight : น้ำหนัก
น้ำหนักของ ClickPack PRO เมื่อไม่ได้ใส่ของจะอยู่ที่ 1 กิโลนิดๆเท่านั้นเอง
ซึ่งถือว่าดีมาก เมื่อเทียบกับกระเป๋าที่มีฟีเจอร์มากมายขนาดนี้
9. Pricing : การตั้งราคา
จุดสำคัญจุดนึงที่คนจะซื้อสินค้าก็คงเป็นเรื่องนี้แหละ แล้วมันเท่าไหร่ล่ะ? ราคาของมันนั้นอยู่ที่ 198 ดอลลาร์ USA
หรือ 250 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าแพงสำหรับกระเป๋า Backpack แต่ถ้าคิดว่ามันจะอยู่กับเราไปอีกนาน
และเราจะใช้ไปอีกนานมันก็จะคุ้มมาก ถ้าคุณยังไม่รู้สึกพอใจกับฟีเจอร์ของมันก็ให้ลองพิจารณาดีๆดูก่อน
แต่ถ้าหากรู้สึกพอใจแล้ว คุ้มแล้ว และจำเป็นต้องใช้ก็จัดการมาเป็นเจ้าของได้เลย
10. สิ่งที่ทำให้มันเป็นกระเป๋า Backpack ที่ดี 4 อย่าง
1. Space Management : การจัดการพื้นที่ว่างภายในกระเป๋า
ตัวกระเป๋าระบบ Removable Storage 2 ใบ ถือว่าเป็น ตัวจัดการพื้นที่ว่างภายในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี
หากไม่มีส่วนนี้การจัดการพื้นที่ว่างภายในกระเป๋าก็คงเกิดคำถามว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตรงส่วนช่องด้านล่างยังรู้สึกว่า
ถ้าเราใส่ของลงไปจุดนั้น เช่น หนังสือ มันจะล็อคของไว้ไม่ค่อยอยู่ของจะกลิ้งไปมาได้ แต่โดยรวมถือว่าดี
2. Comfort : ความสะดวกสบาย
ความสะดวกสบายถือว่าสอบผ่านดีมากๆเลย น้ำหนักของกระเป๋าที่ฟีเจอร์ขนาดนี้ถือว่าไม่มาก
และตอนสะพายยังรู้สึกสบายไม่รู้สึกว่าน้ำหนักกระเป๋าจะมากจะน้อยเพียงใด
3. Overall Quality : คุณภาพโดยรวม
คุณภาพโดยรวมถือว่าดีมากๆ ช่องใส่ Laptop น่าประทับใจมากๆ สาย USB ที่เป็นสายถักต่างจากทั่วไป
ฟีเจอร์การกันกรีดของกระเป๋าที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงสายสะพายนั้นก็มีคุณภาพที่ดีมากๆ
4. Versatility and Use : ความอเนกประสงค์และการใช้ประโยชน์
ส่วนนี้เขาคิดว่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้และสถานการณ์ตอนนั้นๆ ว่าต้องการที่จะนำไปใช้ทำอะไร
-
สำหรับคนไปท่องเที่ยว
หากเอาไปใช้ในการไปท่องเที่ยวเหมาะสมมากๆเพราะมันสามารถใส่ของที่มากมายหลากหลายได้อย่างสบายกว่า
หากเทียบกับกระเป๋า Backpack ทั่วๆไป และยังมีฟีเจอร์การกันกรีดที่สุดยอดอีก
-
สำหรับคนทำงาน
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของคนทำงาน หนุ่ม สาว ออฟฟิศ เหมาะเหม็งมากๆ
เพราะของที่ต้องการใช้ในแต่ละวันในออฟฟิศก็สามารถใส่ลงไปได้หมด ด้วยที่กระเป๋าออกแบบมาเข้าพอดี
-
สำหรับใส่หนังสือ
แต่หากเป็นกระเป๋าสำหรับไปโรงเรียน หรือกระเป๋าเรียนแล้วเราที่จะต้องการให้มันเป็น
กระเป๋าใส่หนังสือก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ออกแบบให้สามารถใส่หนังสือลงไปได้มากขนาดนั้น
11. ข้อสรุปและข้อพัฒนาเพิ่มเติม
สุดท้ายแล้วโดยรวมกระเป๋า ClickPack PRO ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย แต่ก็มีสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะพัฒนาได้อีกคือ
วัสดุส่วนที่เป็นก้นกระเป๋าด้านล่างสุด วัสดุของมันน่าจะเป็นอะไรที่แข็งแรงกว่านี้ ข้อพัฒนาอื่นๆอีกก็จะมี
ตัวตีนตุ๊กแกบนกระเป๋า Removable Storage น่าจะทำให้มีความเหนียวกว่านี้ และช่องใส่ Tablet
หากเป็นไปได้อยากจะให้กว้างมากพอกว่านี้เพื่อที่จะใส่ Tablet รุ่นเก่าๆได้ด้วยครับ
ก็จบกันไปแล้วนะครับกับการ รีวิวกระเป๋ากันขโมย กันกรีด ClickPack PRO โดย James Chia
เราจะเห็นว่ารีวิวละเอียดมากกก ทำให้เราได้ข้อมูลเต็ม สุดท้ายนี้ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กันนะครับ
และหากเห็นว่าดีก็ลองแชร์ให้เพื่อนๆของคุณกันด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนมากๆเลย สวัสดีครับ