กราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ วันนี้เราจะมารีวิวกระเป๋าที่มีชื่อว่า NOMATIC Travel Bag แน่นอนว่า
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกระเป๋าเดินทาง แต่กระเป๋าใบนี้มันไม่ใช่กระเป๋าเดินทางธรรมดา มันมีอะไรที่ตื่นตาตื่นใจ
รอคุณอยู่แน่นอน เดี๋ยวเราไปเริ่มดูกันเลยดีกว่าครับ มีเรื่องราวให้คุณได้ดูเยอะแยะเลย Go Go!
รู้จักกันก่อน
กระเป๋า NOMATIC Travel Bag เป็นกระเป๋าที่รวบรวมสุดยอดฟังก์ชั่นหลากหลายที่เหล่านักเดินทางต้องการ
เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เหมาะมากกับคนที่ต้องเดินไปหลายๆวัน เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับการเดินทาง 3-7 วัน
และไม่ใช่กระเป๋าเดินทางทั่วๆไป เพราะมันสามารถเป็นได้ทั้งกระเป๋าเป้ Backpack และกระเป๋าทรง Duffel!
รูปร่างหน้าตา
เมื่อแกะกล่องออกมาเราก็จะพบเจ้าตัวกระเป๋า NOMATIC Travel Bag อยู่ในถุงพลาสติกหนึ่งใบครับ
ตัวกระเป๋าใบค่อนข้างใหญ่เหมาะมากจริงๆกับการเดินทางหลายๆวัน และแน่นอนครับมีน้ำหนักพอสมควรเลย
วัสดุโดยรวมถือทนทาน แข็งแรง และเป็นแบบกันน้ำ 100% ครับ ทีนี้เดี๋ยวเรามาเริ่มดูฟีเจอร์ทีละตัวกัน
ฟีเจอร์เด็ด
สายกระเป๋า
อย่างที่เกริ่นไปว่ากระเป๋าตัวนี้สามารถแปลงร่างได้ 2 ร่างคือ กระเป๋าเป้ (Backpack) และ กระเป๋าแบบถือ (Duffel)
และสามารถเปลี่ยนได้เพียงแค่เสี้ยววินาที! อีกทั้งสายกระเป๋าที่ไม่รกไม่พันกันเลย อันนี้สุดยอดจริงๆ
เอาขึ้นเครื่องบินได้
ด้วยขนาด 14 x 21 x 9 นิ้ว กระเป๋า NOMATIC Travel Bag สามารถพาขึ้นเครื่องบินได้สบายครับ
แถบสะท้อนแสง
เราจะเห็นว่าบริเวณรอบๆของตัวกระเป๋าจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของมันอยู่ นอกจากจะดูสวยงามแล้ว
มันยังมีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้อีกด้วย! นั่นหมายถึงในช่วงเวลาที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืน
เราและคนอื่นจะสามารถมองเห็นกระเป๋าได้ชัดเจน ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเองครับ
เสียบกระเป๋าเดินทางได้
หากเราพลิกมาดูที่ด้านนี้ จากภาพจะเห็นมีช่องตรงนี้อยู่เอาไว้เสียบกระเป๋าเดินทางที่ใบใหญ่กว่า
ที่เป็นแบบล้อลากครับ ในช่วงที่คุณต้องเดินทางหลายวันมากๆอย่างไปต่างประเทศ
ช่องด้านบน
ช่องด้านบนตรงหูจับจะเป็นแบบ soft touch ช่วยถนอมมือของเราเวลาจับ
และจะเห็นว่าประกอบไปด้วยช่องซิป 3 ช่องด้วยกันตามลำดับในภาพเลยครับ
ช่องแรกด้านบนสุดเมื่อเปิดออกมาจะเป็น ช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ที่แตกหักง่ายๆอย่างเช่น
มือถือ แว่นกันแดด เพราะช่องนี้ด้านในจะเป็นผ้านุ่มๆ ช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีครับ
ช่องที่สองจะเป็นช่องสำหรับใส่ขวดน้ำครับ และพิเศษมากๆตรงที่ด้านในเป็นผ้าแบบกันน้ำ! ซึ่งช่วยป้องกัน
เหตุการณ์ที่ว่าขวดน้ำรั่วหรือปิดขวดไม่สนิท ป้องกันน้ำซึมของในกระเป๋าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ช่องที่สาม เชื่อว่าบางคนอาจไม่เห็นว่ามันมีด้วยหรอในตอนแรก (เช่นผมเป็นต้น ฮ่าๆ) เพราะมันจะซ่อนอยู่
ใต้ช่องที่สองอีกทีครับ เมื่อเปิดออกมาภายในช่องค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว ช่องนี้มีเอาไว้สำหรับใส่พวก
เสื้อผ้าประเภทชุดชั้นใน กางเกงใน ถุงเท้า เป็นต้น เพื่อจะได้แยกออกได้เป็นสัดเป็นส่วนนั่นเองครับ
ช่องด้านล่าง
ด้านล่างจะเห็นว่ามีหูจับเช่นกันแต่จะเป็นหูแบบธรรมดาไม่ใช่แบบ soft touch มีช่องซิปแค่ช่องเดียว
ซึ่งเมื่อเราเปิดเข้าไปจะเป็นช่องโล่งๆใหญ่ๆหน่อยครับ ช่องนี้เอาไว้สำหรับใส่รองเท้าได้ถึง 2 คู่
ขนาด size 12 (U.S. size) เป็นอะไรที่สะดวกมากเพราะจะแยกรองเท้าออกจากส่วนอื่นในกระเป๋าเลย
และตรงฝาจะเห็นว่ามีสายยางยืดอยู่ เอาไว้สำหรับรัดเก็บตัวเจ้า Laundry Bag
ซึ่งมันคืออะไรเดี๋ยวมาบอกกันในหัวข้อถัดๆไปนะครับ
ช่องด้านข้าง
ทีนี้เรามาดูช่องด้านข้างทั้งสองด้านกันนะครับ มาดูที่ด้านแรกกันจะเห็นว่ามี
ช่องยิบๆย่อยๆเต็มไปหมดเลย เดี๋ยวเราค่อยๆมาเจาะดูทีละส่วนกันครับ
ดูที่ทางด้านซ้ายก่อนเลย จะเห็นว่ามีช่องซิปที่ระบุไว้ว่า RFID SAFE นั่นหมายความว่าช่องนี้เป็นช่องที่สามารถ
ป้องกันการถูกโจรกรรมทางบัตรเครดิตได้นั่นเอง สามารถเอาบัตรที่มีชิปการ์ดเก็บไว้ในนี้ได้เลยครับ และเมื่อ
เอามือล้วงเข้าไปจะเจอตัวล็อคแบบตั้งรหัส 3 หลักระบบ TSA อยู่ สามารถเอามาล็อคซิปเพิ่มความปลอดภัยได้อีก
วิธีตั้งรหัสตัวล็อคซิประบบ TSA
ขั้นแรกให้เราหมุนไปที่รหัสปลดล็อคก่อนครับ โดยที่ทางโรงงานจะตั้งมาให้เราเป็น 000
ให้เราดึงสลักขึ้นมาแล้วบิดไปทางด้านทวนเข็มนาฬิกา 90 องศา ตามภาพด้านล่างเลยครับ
ให้กดตัวสลักให้จมลงไป จากนั้นบิดไปทางเดิมอีกหนึ่งทีให้สลักไปค้างอยู่ดังภาพ
พอถึงขั้นตอนนี้ให้เราตั้งรหัสผ่านใหม่ได้เลยครับ เช่น ตัวอย่างในภาพผมตั้งเป็น 007
สุดท้ายให้เราบิดตัวสลักกับมาล็อคดังเดิม เท่านี้รหัสก็จะถูกเปลี่ยนใหม่เรียบร้อยแล้วครับ
ถัดไปจากช่อง RFID SAFE ที่กล่าวไปข้างต้น จะมีช่องซิปและช่องตาข่ายหลายๆขนาด
เอาไว้สำหรับใส่ของที่เราต้องการให้มันอยู่เป็นหมวดๆ เช่น สายชาร์จ หูฟัง และของอื่นๆ
ถัดมา เรามาดูฝั่งด้านข้างอีกด้านนึงนะครับ ด้านนี้จะไม่มีอะไรซับซ้อนมากเข้าใจง่ายๆเลย
คือเราจะเห็นว่ามีช่องซิปอยู่เพียงแค่ 2 ช่องเท่านั้นแบ่งเป็นช่องเล็กกับช่องใหญ่ โดยที่เรา
สามารถที่จะใส่ของที่ต้องการหยิบเร็วๆได้ เช่น สมุด หนังสือ Power Bank เป็นต้น
ช่องด้านใน
ทีนี้เรามาดูที่ช่องด้านในกระเป๋ากันนะครับ ซึ่งมันสามารถเปิดออกได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว
ทำให้มีความสะดวกมากๆเวลาที่เราจะต้องจัดกระเป๋า หยิบของเข้าๆออกๆ อีกทั้งช่องภายในก็กว้างมากๆ
ช่องใหญ่ด้านในนี้ คุณสามารถที่จะจัดการใสเสื้อผ้าหรือของต่างๆได้ตามสถานการณ์เลยครับ เพราะจะเห็นว่า
ไม่ว่าจะช่องใส่รองเท้า ช่องใส่กางเกงใน ถุงเท้า ทั้งช่องด้านบนและด้านล่างต่างๆที่เรากล่าวมาก่อนหน้านี้
มันก็จะดันมารวมกันอยู่ในนี้หมดเลย ดังนั้นคุณสามารถที่จะปรับขนาดรูปทรงของกระเป๋าได้ตามที่คุณต้องการเลย
ส่วนทางด้านฝาเปิดกระเป๋าเราจะเห็นว่ามีช่องใส่ Laptop (สูงสุด 15 นิ้ว) และ Tablet ได้อีกด้วย
ซึ่งตัวของฝาเปิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เปิดปิดได้สะดวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สนามบินตรวจสอบได้ง่าย
Laundry Bag
มาถึงคิวของ Laundry Bag ที่เราค้างกันไว้นะครับเจ้าสิ่งนี้ก็คือ ถุงที่มีไว้ใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วนั่นเอง
ซึ่งมันสามารถกางออกมาและเอาไปแขวนไว้บนลูกบิดประตูเพื่อรอใส่ผ้าที่ใช้แล้วได้เลยครับ
สายคาดเอว หรือ สายรัดเอว
อุปกรณ์อีกชิ้นที่น่าสนใจก็คือ สายคาดเอว หรือ สายรัดเอว แล้วแต่จะเรียกนะครับ โดยที่มันมีไว้เพื่อ
ช่วยแบ่งเบาภาระเราเวลาสะพายกระเป๋า เพราะมันจะคอยช่วยกระจายน้ำหนักให้เราไม่รับภาระหนักเกินไป
ที่สำคัญที่ตัวสายยังมีช่องซิปทั้งสองฝั่ง เพื่อเอาไว้สำหรับใส่อุปกรณ์ที่หยิบบ่อยๆ เช่น มือถือ หูฟัง เป็นต้น
เป็นยังไงกันบ้างกับการรีวิวกระเป๋า NOMATIC Travel Bag ใบนี้ฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ
สุดยอดไปเลยใช่มั้ยครับ ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าอีกรุ่นนึงที่เหมาะกับคนที่ชอบเดินทาง ท่องเที่ยวได้ดีมากๆ
และคุ้มค่าเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามก็ขอฝากกระเป๋าใบนี้ไว้ลองไปใช้กันนะครับ ขอบพระคุณคร้าบ