กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะครับ ในบทความนี้เราจะมารีวิวสินค้าจากแบรนด์ Peak Design ในกลุ่ม Everyday Line กัน สินค้ากลุ่มกระเป๋าที่ออกแบบมาทั้งการใช้งานใส่กล้องและการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเราจะมาพูดถึงกระเป๋ารุ่น Everyday Backpack V2 ทั้ง 20 ลิตร และ 30 ลิตร ซึ่งทั้ง 2 ขนาดมีฟีเจอร์ต่างๆที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นผมจะทำการรีวิวทั้ง 2 ขนาดไปพร้อมๆกันเลย และเนื่องจากนี่เป็นรุ่น V2 ในตอนท้ายจะมีการอธิบายว่ามีอะไรที่พัฒนามาจากรุ่น V1 บ้าง? ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันครับ
วัสดุ
มาเริ่มกันที่วัสดุกันก่อนเลย เนื้อผ้าด้านนอกจะเป็น Nylon Canvas รีไซเคิล 100% มีการเคลือบ DWR และเสริมด้วย PU ช่วยให้ทนทานทุกสภาพอากาศกันน้ำได้ระดับนึง และมีการบุโฟม EVA ช่วยป้องกันการกระแทก โดยตัววัสดุยังได้รับมาตราฐาน Bluesign (ทุกสียกเว้นสีดำ) ที่รับรองว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต
UltraZips
ถัดมาจะเป็นซิปที่เรียก UltraZips เป็นซิปที่ทาง Peak Design ออกแบบขึ้นมาใหม่ มีความทนทานสูงกว่าซิปทั่วไป และที่มีความพิเศษสุดๆคือรูดได้ง่ายมาก ถ้าหากได้ลองรูดตัวซิปจริงๆจะสัมผัสได้เลยว่ารูดได้ลื่นมากๆ
MagLatch
MagLatch เป็นอุปกรณ์ที่มีมาตั้งแต่รุ่น Everyday Backpack V1 ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับเปิด-ปิดช่องหลักของกระเป๋ามีคุณสมบัติของแม่เหล็ก โดยใน Everyday Backpack V2 ได้มีการพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีความสวยงามขึ้นและสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
สายกระเป๋าและด้ามจับกระเป๋า
สายสะพายไหล่ออกแบบมาให้นุ่มระบายอากาศดี และมีจุดหมุนช่วยรับแรงเหวี่ยงป้องกันสายฉีกขาด เบาะรองหลังมีคุณสมบัติแม่เหล็กช่วยเก็บสายสะพายไหล่ไม่ให้ห้อยไปมาได้
นอกจากนี้สายสะพายไหล่ยังรองรับการติดตั้ง Capture เพื่อพกพากล้องและเลนส์ไว้ด้านนอกกระเป๋าได้
สายสะพายไหล่ปรับความสั้น-ยาวสายได้ง่าย สามารถคลายสายออกมาได้รวดเร็วเพื่อปรับใช้งานแบบ Side Access
สายคาดอกปรับระดับได้ รองรับการติด Hip Belt เป็นสายคาดเอวได้ และมีด้ามจับรอบกระเป๋า 3 จุด
ช่องเก็บของด้านข้าง
ที่ด้านข้างกระเป๋าจะมีช่องสำหรับเก็บขวดน้ำหรือขาตั้งกล้องโดยเฉพาะ มีความลึกและขยายได้กว้างมาก และที่ด้านนึงจะมีสายสำหรับคล้องกุญแจแบบระบบ Anchor Link สามารถนำกุญแจมาติดตั้งเก็บไว้ได้เลย เมื่อต้องการก็หยิบใช้ได้ทันที
และถ้าเรารูดซิปเปิดที่ช่องด้านข้างออกมา ที่ด้านในจะมีช่องซิปเปิด-ปิดได้สำหรับจัดระเบียบอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆได้
ช่องเสียบที่จับ Luggage
ที่ด้านหลังของกระเป๋านอกจากมีคุณสมบัติแม่เหล็กเพื่อเก็บสายสะพายไหล่แล้ว ยังทำเป็นช่องสำหรับเสียบที่จับ Luggage สำหรับพกพาไปได้ด้วย
ช่องเก็บ Laptop และ Tablet
Everyday Backpack 20L ใส่ Macbook 15 นิ้วได้ ส่วน Everyday Backpack 30L ใส่ Macbook ขนาด 16 นิ้วได้ และทั้ง 2 รุ่นใส่ Tablet 12.9 นิ้วได้ ซึ่งจะมีช่องย่อยสำหรับเก็บอุปกรณ์อื่นๆเพิ่มเติมอีกด้วย
แผ่นจัดระเบียบ FlexFold
ใน Everyday Backpack V2 ยังคงมีแผ่นจัดระเบียบ FlexFold เช่นเดิม ซึ่งเป็นแผ่นจัดระเบียบที่ออกแบบโดย Peak Design เอง สามารถพับปรับไปมาถอดเข้าออกได้ ช่วยในการจัดระเบียบ โดยมี FlexFold ทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกัน
สายรัดอุปกรณ์ด้านนอก
Everyday Backpack V2 เป็นกระเป๋าที่ความจุค่อนข้างสูง แต่ในบางครั้งถ้าเราใส่ของเข้าไปในกระเป๋าไม่พอก็ต้องมีการผูกของไว้นอกกระเป๋าด้วย Peak Design จึงออกแบบสายรัดมา 4 เส้น แบ่งเป็นสายรัดแบบสั้น 2 เส้น และสายรัดแบบยาว 2 เส้น ซึ่งปรับความสั้น-ยาวได้ที่ปลายสายจะมีตะขอสำหรับเกี่ยวกับห่วงที่อยู่ตามจุดต่างๆรอบกระเป๋า สามารถปรับได้ตามการใช้งานเลย
สีแต่ละรุ่น
Everyday Backpack 20L มี 4 สีคือ Ash, Midnight, Charcoal และ Black ส่วน Everyday Backpack 30L มี 3 สีคือ Midnight, Charcoal และ Black
Everyday Backpack V2 พัฒนาจาก Everyday Backpack V1 อย่างไรบ้าง?
1. รูปทรงโค้งมนขึ้น เก็บตะเข็บได้เรียบร้อยกว่าเดิม
2. วัสดุใหม่ที่ใช้เป็นการรีไซเคิล 100% ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
3. UltraZips ซิปที่พัฒนาขึ้นใหม่ความทนทานสูง รูดลื่น เปิดได้ง่าย
4. MagLatch พัฒนาใหม่สวยงามขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น
5. เบาะรองหลังมีคุณสมบัติแม่เหล็กช่วยเก็บสายสะพายไหล่
6. ช่องเก็บขวดน้ำหรือขาตั้งกล้องด้านข้างเปิดได้กว้างขึ้น
7. ช่อง Laptop เปิดได้กว้างขึ้น ภายในแบ่งช่องย่อยมากขึ้น
8. ช่องด้านข้าง V2 จะแบ่งย่อยมากกว่า V1
9. พัฒนาสายรัดของด้านนอกใหม่ ตะขอเกี่ยวใหม่
ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิว Peak Design Everyday Backpack V2 กระเป๋าเป้ความจุ 20 ลิตร และ 30 ลิตร จากการรีวิวก็จะเห็นได้ว่าฟีเจอร์ต่างๆออกแบบมาให้เป็นกระเป๋าที่ใช้ใส่กล้อง เลนส์ และอุปกรณ์กล้องต่างๆ หรือจะใช้เป็นกระเป๋าใส่ของประจำวันก็ได้เช่นกัน ก็สามารถเลือกใช้ได้ตามสไตล์การใช้งานแต่ละคนเลยนะครับ